จีนออกโรงเตือนสหรัฐอเมริกา พร้อมออกมาตรการโต้กลับ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ยอมยกเลิกนโยบายที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 100%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อไม่นานนี้ ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดีย ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 100% พร้อมระบุว่า มาตรการใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน หรือเร็วกว่านั้น เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลจีนประกาศคุมเข้มกฎการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earths) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันนี้ (12 ตุลาคม) โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนออกมาตอบโต้ว่า “การหันมาใช้วิธีข่มขู่เรียกเก็บภาษีในอัตราสูงลิ่ว ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับจีน” และ “หากสหรัฐฯ ยังยืนกรานที่จะดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว จีนจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรม”
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนยังย้ำด้วยว่า “จุดยืนของเราเกี่ยวกับสงครามภาษี คือเราไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่เราก็ไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับมันเช่นกัน” พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้ไขแนวทางที่ผิดพลาดโดยเร็ว และ “รักษาความคืบหน้าในการเจรจาที่ได้มาอย่างยากลำบาก”
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจที่ปะทุขึ้นรอบใหม่ ได้กดดันให้ตลาดหุ้นปิดร่วงลง อีกทั้งยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ว่า บรรยากาศการตอบโต้ทางภาษีแบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ อาจหวนกลับมาอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก็ยังเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับการเจรจาการค้าที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งเดิมทีคาดว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะร่วมประชุมกันแบบตัวต่อตัวที่เกาหลีใต้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่ท่าทีของทรัมป์ที่ออกมาในตอนนี้ก็ทำให้คาดเดาได้ยากว่าการประชุมดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ หลังจากที่เขาแสดงความไม่พอใจอย่างมากกับการที่จีนคุมเข้มการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า กฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับแร่แรร์เอิร์ธ “เป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมาย” และกล่าวโทษว่าสหรัฐฯ เป็นต้นเหตุที่ทำให้ความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ยกระดับรุนแรงกว่าเดิม โดยอ้างถึงการที่รัฐบาลทรัมป์ได้ออกมาตรการจำกัดชุดใหม่ต่อจีน ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากการเจรจาการค้ารอบล่าสุด ณ กรุงมาดริดในเดือนกันยายน
“การกระทำของสหรัฐฯ ทำลายผลประโยชน์ของจีนอย่างร้ายแรง และบ่อนทำลายบรรยากาศของการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าในระดับทวิภาคี จีนคัดค้านการกระทำเหล่านี้อย่างหนักแน่น” โฆษกระบุ
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่มีการผลิตแร่แรร์เอิร์ธมากที่สุด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตรถยนต์ สมาร์ตโฟน และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย โดยมาตรการควบคุมการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธชุดใหม่นี้มุ่งเป้าไปที่เทคโนโลยีการผลิต และการนำไปใช้ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้งานสำหรับกิจการทหารและเซมิคอนดักเตอร์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า มาตรการของจีนนั้นโดยรวมแล้วมีความคล้ายคลึงกับมาตรการจำกัดการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐฯ ได้จำกัดการส่งออกชิปหรืออุปกรณ์ผลิตชิปไปยังจีน
แฟ้มภาพ: REUTERS/Kevin Lamarque/File Photo
อ้างอิง:
