จีนเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก หลังนักลงทุนมองจีนไม่เหมือนเดิม พร้อมบอกจะไม่ลงทุนในตลาดจีน ก่อนโยกไปลงทุนในตลาดเกิดใหม่แทน ส่วนบริษัทที่ลงทุนอยู่แล้วก็ลดเม็ดเงินลง ผลพวงจากนโยบายและกฎหมายไม่โปร่งใส-ความตึงเครียดกับสหรัฐฯ
Nikkei Asia รายงานว่า ท่ามกลางความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และความเอาแน่เอานอนไม่ได้กับทิศทางนโยบายของจีนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่สมัยที่ เติ้งเสี่ยวผิง ริเริ่มโครงการปฏิรูปขนานใหญ่ พร้อมออกนโยบายควบคุมอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไปจนถึงกลุ่มอสังหาที่มีความเข้มงวดมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำไมต่างชาติยังลังเลลงทุนในจีน แม้ทางการจีนพยายามลบภาพ ‘ตลาดที่ลงทุนไม่ได้’
- เจาะลึก FDI 2023 ประเทศไหนลงทุนในไทยมากสุด อุตสาหกรรมไหนมาแรง
- แรงงานที่มีทักษะ เศรษฐกิจดิจิทัล และประชากรรุ่นใหม่ ปัจจัยที่ทำให้ ‘ไทย’ ติดอันดับประเทศที่ต่างชาติต้องการขยายฐานการลงทุนสูงสุดของอาเซียน
ขณะเดียวกัน หอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในประเทศจีนได้สำรวจบริษัทที่เป็นสมาชิกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่าธุรกิจเกินครึ่งตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาจะไม่ลงทุนในประเทศจีน หรืออาจลงทุนน้อยลงจากเดิม
ที่เห็นได้ชัดคือบริษัทต่างชาติอย่าง Mitsubishi ที่ประกาศในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า จะยุติการผลิตรถยนต์ในจีนด้วยการถอนตัวจากการร่วมทุนกับกวางโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป (GAC)
ทั้งนี้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศลดลง เป็นเพราะความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ในช่วงเดือนสิงหาคม สหรัฐฯ ได้ประกาศข้อจำกัดในการลงทุนชิปและปัญญาประดิษฐ์ในจีนเข้มงวดขึ้น
ตามรายงานของบริษัทวิจัย Rhodium Group ของสหรัฐฯ ระบุว่า ส่วนแบ่งการลงทุนในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศของจีนได้หดตัวลงจาก 48% ในปี 2018 เป็น 1% ในปี 2022 แต่ในทางตรงกันข้าม ส่วนแบ่งการลงทุนในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ กลับเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 37%
Yusuke Miura นักวิจัยอาวุโสของสถาบันวิจัย NLI กล่าวว่า นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการสอดแนมต่างๆ เนื่องจากกฎหมายและข้อบังคับของจีนขาดความโปร่งใส ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการทำธุรกิจที่อาจทำให้มีความเสี่ยงตามมา
ถึงกระนั้นหอการค้าอเมริกันในจีนประมาณ 66% อ้างว่า ความตึงเครียดทวิภาคีที่เพิ่มขึ้นเป็นความท้าทายทางธุรกิจในจีน
ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) สูงถึง 1.8 แสนล้านดอลลาร์ ปัจจุบันตัวเลขการลงทุนเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก จากการถอนธุรกิจและไม่มีการลงทุนสร้างธุรกิจใหม่ๆ และแน่นอนว่าการลงทุนจากต่างประเทศนั้นซบเซามาตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดในปี 2022
อ้างอิง: