ธนาคารกลางจีนจ่อลดดอกเบี้ยสินเชื่อและเงินฝาก หวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาแข็งแกร่ง

ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ ซึ่งมีมูลค่า 38.6 ล้านล้านหยวน โดยการลดลงจะส่งผลต่อสินเชื่อสำหรับบ้านหลังแรกเท่านั้น การประกาศครั้งนี้เป็นหนึ่งในความพยายามของธนาคารกลางจีนในการทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีผลสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ที่กำลังชะลอตัวอยู่ในเวลานี้

ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้ให้กู้ทั้งหลาย เช่น Industrial and Commercial Bank of China Limited และ China Construction Bank Corporation ก็มีแนวโน้มว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี ในปลายสัปดาห์นี้ เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของทางการจีน ไม่ว่าจะเป็นการพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค การผลักดันเงินทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นมากขึ้น และการบรรเทาแรงกดดันต่อผู้ให้กู้ นอกจากนี้ การผลักดันนโยบายล่าสุดยังได้จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับภาระของธนาคารในการให้บริการระดับชาติ และอัตรากำไรที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจีนยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว

ที่ผ่านมารัฐบาลจีนค่อนข้างระมัดระวังในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง แทนการใช้มาตรการที่กำหนดเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และแม้จีนจะลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานและผลักดันต้นทุนการจำนองโดยเฉลี่ยให้ต่ำเป็นประวัติการณ์ แต่ครัวเรือนชาวจีนส่วนใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากธนาคารไม่ได้มีการปรับราคาสินเชื่อที่มีอยู่จนกว่าจะถึงต้นปีหน้า

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan Chase & Co. ประมาณการว่า อัตราการจำนองใหม่ต่อปีอยู่ที่ 4.18% ซึ่งต่ำกว่าการกู้ยืมคงค้างประมาณ 0.60% นั่นทำให้ผู้บริโภคบางรายต้องกู้ยืมเงินระยะสั้นเพื่อชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนด

ทั้งนี้ ข้อมูลจำนองคงค้างของจีนสิ้นสุด ณ เดือนกรกฎาคม 2021 พบว่า มากกว่า 90% เป็นสินเชื่อสำหรับบ้านหลังแรก

ผู้ถือหุ้นใหญ่ Zhongrong Trust จ่อเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า บริษัท Jingwei Textile Machinery ซึ่งถือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัททรัสต์สัญชาติจีน และมีบทบาทอย่างมากต่อวิกฤตภาคธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารเงาของจีน กล่าวชัดเจนว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการวางแผนที่จะเพิกถอนหุ้นของตนออกจากตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาการลุกลามในระบบการเงินท่ามกลางเศรษฐกิจมูลค่า 18 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ในการยื่นเอกสารของ Jingwei Textile Machinery เมื่อวันอังคารที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะเพิกถอนหุ้นของตนออกจากตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้ยากสำหรับองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง โดยในเอกสารบริษัทยังอ้างถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาด และการเพิกถอนหลักทรัพย์ครั้งนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย

แม้ว่าบริษัทไม่ได้เอ่ยถึง Zhongrong International Trust แต่ Jingwei Textile Machinery ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ถือหุ้นสูงสุดของธนาคารเงาที่กำลังประสบปัญหาแห่งนี้ ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 37.5% ตามรายงานประจำปีของ Zhongrong ในปี 2022 ขณะที่อันดับ 2 คือ Zhongzhi Enterprise Group หนึ่งในผู้จัดการความมั่งคั่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน

แถลงการณ์ของ Jingwei Textile Machinery ระบุว่า บริษัทจะมีการประชุมพิเศษในวันที่ 15 กันยายนนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นลงมติเกี่ยวกับแผนการเพิกถอนหลักทรัพย์ดังกล่าว และบริษัทไม่มีแผนที่จะจดทะเบียนหุ้นของตนใหม่

อ้างอิง: