การประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย กัมพูชา และจีน ที่จัดขึ้น ณ ทะเลสาบฝู่เซียน ในเมืองอวี้ซี มณฑลยูนนาน ระหว่างวันที่ 28 และ 29 ธันวาคม เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ภายหลังไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC สมัยพิเศษครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นอีกหมุดหมายสำคัญต่อความพยายามฟื้นสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศ ภายหลังเกิดการสู้รบระลอกล่าสุดนานเกือบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลจากนานาชาติ
การประชุม 3 ฝ่ายในครั้งนี้ นำโดยสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย พร้อมด้วยปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา และหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน
ภายหลังการประชุม กัว เจียคุน (Guo Jiakun) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยแพร่ข้อมูลข่าว (Press Release) โดยระบุว่า “จีนยินดีกับแถลงการณ์ร่วมของ GBC ที่ออกมา”
ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ทั้งจีน ไทย และกัมพูชา เน้นย้ำว่า”แถลงการณ์ร่วมของ GBC นั้น เป็นผลประโยชน์ระยะยาวของประชาชนทั้งสองประเทศ” อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก และเอื้อต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “การเจรจาและการปรึกษาหารือ เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขข้อพิพาทที่ซับซ้อน”
ขณะที่ทั้งสามฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับการเสริมสร้างการหยุดยิงอย่างมั่นคง และการทำงานร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชาทีละขั้นตอนเพื่อฟื้นการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองประเทศสู่ภาวะปกติ ตลอดจนสร้างความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างกัน และปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชา และรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค
สำหรับผลลัพธ์ที่สำคัญจากการประชุมสามฝ่ายดังกล่าว ได้แก่
1.ให้ความสำคัญลำดับแรกต่อการเสริมสร้างความมั่นคงของการหยุดยิง และรับประกันการดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมของ GBC อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ โดยจีนสนับสนุนความมุ่งมั่นของกัมพูชาและไทยในเรื่องนี้ ผ่านความพยายามร่วมกันโดยมีเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจว่าการหยุดยิงจะเป็นไปอย่างครอบคลุมและยั่งยืน และวางรากฐานสำหรับการสร้างสันติภาพขึ้นใหม่
ในส่วนนี้ ทั้งสามฝ่ายยังให้การสนับสนุนกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ไทย – กัมพูชา ในการแก้ไขข้อพิพาทพรมแดนตามแถลงการณ์ร่วมของ GBC
ขณะที่จีนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนที่จำเป็นทั้งหมดแก่กัมพูชาและไทยในการดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยผ่านคณะทำงานประสานงานร่วมและข้อตกลงทวิภาคี และให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมแก่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานจะมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้กองทัพจีนจะคงการติดต่อกับกองทัพกัมพูชาและไทยเพื่อให้การสนับสนุนในการเสริมสร้างความมั่นคงของการหยุดยิง เมื่อมีความจำเป็นและมีการร้องขอโดยกัมพูชาและไทย
2. การดำเนินงานเพื่อฟื้นการแลกเปลี่ยนตามปกติ ซึ่งจีนยินดีกับความพยายามของกัมพูชาและไทยในการพยายามกลับมามีการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารในทุกด้านและทุกระดับ โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างกัน และฟื้นฟูความเป็นอยู่ของผู้พลัดถิ่นในพื้นที่ชายแดนตามแถลงการณ์ร่วมของ GBC ซึ่งจีนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในทันที เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการดำรงชีพของผู้พลัดถิ่นในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ
3. กัมพูชาและไทยจะทำงานเพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกันขึ้นใหม่ โดยจีนยินดีกับความพยายามของกัมพูชาและไทยในการสร้างความร่วมมือผ่านช่องทางการทูต และส่งเสริมการติดต่อระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศ
ขณะที่กัมพูชาและไทยเห็นพ้องที่จะส่งเสริมบรรยากาศที่ดีสำหรับการประชุมผู้นำความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 5 ที่วางแผนจะจัดขึ้นในประเทศไทยในเวลาที่เหมาะสม และรับประกันความสำเร็จของการประชุม
4. เป้าหมายระยะยาวคือการปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทย โดยจีนสนับสนุนให้กัมพูชาและไทยสร้างเงื่อนไขสำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตตามปกติทีละขั้นตอน
ขณะที่จีนยินดีที่จะจัดหาเวทีเมื่อจำเป็น เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถสื่อสารกันได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ความรับผิดชอบร่วมกัน คือการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค โดยกัมพูชาและไทยแสดงความมุ่งมั่นที่จะระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเพื่อจัดการกับความเสี่ยงและความท้าทายร่วมกัน ตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ((Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia : TAC)
ทั้งสามประเทศเห็นพ้องที่จะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การหลอกลวงทางโทรคมนาคมและออนไลน์ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในภูมิภาค
ทั้งนี้ กัมพูชาและไทยยังแสดงความชื่นชมจีนที่ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันในการส่งเสริมการเจรจาระหว่างสองประเทศ โดยคำนึงถึงความสะดวกของทั้งสองฝ่าย
ขณะที่จีนยืนยันว่าจะยังคงมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการอำนวยความสะดวกในการฟื้นฟูความไว้วางใจและบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างกัมพูชาและไทยในแบบเอเชีย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน


