เจาะลึก 5 อุตสาหกรรมดาวรุ่งในประเทศจีนที่มีความน่าสนใจ และเป็นโอกาสในการลงทุนในตลาดหุ้นจีนแห่งปี 2025 ตั้งแต่เทคโนโลยี AI รถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์กีฬาและลักชัวรีจีนที่ดังไกลระดับโลก การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด ไปจนตลาดใหม่อย่างอาร์ตทอย
Bazooka Stimulus มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของประเทศจีน
ประเทศจีนกำลังเป็นประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังภาครัฐของจีนแผ่นดินใหญ่เดินหมากกระตุ้นเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ ก็กลับมาฟื้นในหลายภาคส่วน และในต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ‘การประชุมสองสภา’ ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ของทางการเมืองระดับชาติที่สำคัญของจีนในการกำหนดทิศทางนโยบายชาติ โดยประเทศจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประมาณ 5% ในปี 2025
เป้าหมายนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใหญ่มาก แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกต่อการเติบโตของประเทศจีนก็ยังมีอยู่มากมาย อย่างเช่นนโยบาย Bazooka Stimulus ที่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีน ซึ่งช่วยให้ความมั่นใจของผู้บริโภคและการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ในด้านเทคโนโลยีอย่าง AI ที่กำลังเป็นโอกาสสำคัญในการแข่งขันของประเทศมหาอำนาจ ที่ไม่นานมานี้ ประเทศจีนได้ท้าทายสหรัฐอเมริกาด้วยการเปิดตัว AI อย่าง Deepseek ที่ทั้งภาครัฐก็แสดงการสนับสนุนเป็นอย่างมาก เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระดับโลก
5 อุตสาหกรรมดาวรุ่งจีนที่เป็นธีมการลงทุนปี 2025
ในปี 2025 นี้ THE STANDARD WEALTH ได้พูดคุยกับ CGS International (Thailand) ผู้ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนและเศรษฐกิจจีน พบว่าปัจจุบันเศรษฐกิจจีนกำลังมี 5 อุตสาหกรรมดาวรุ่งที่กำลังเป็นดาวเด่นและเป็น ‘โอกาส’ รวมถึงเป็นธีมการลงทุนในตลาดหุ้นจีน และนี่คือ 5 อุตสาหกรรมสำคัญ
อุตสาหกรรมที่ 1: เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์
จีนตระหนักดีว่าการแข่งขันทางเศรษฐกิจในอนาคตขึ้นอยู่กับศักยภาพทางเทคโนโลยี การลงทุนใน AI และเซมิคอนดักเตอร์กลายเป็นวาระแห่งชาติ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ได้รับเลือกให้เป็นพาร์ตเนอร์ AI สำหรับ iPhone ในจีน ซึ่งเป็นการร่วมมือที่สำคัญและช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดของ Alibaba มากกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังวางแผนลงทุนกว่า 5.244 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI รวมถึงเปิดตัวโมเดล AI Qwen 2.5 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า DeepSeek-V3
สำหรับ Tencent ได้ปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอ AI ของตนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวศูนย์ข้อมูลคลาวด์ Tencent Cloud แห่งแรกในตะวันออกกลางที่ซาอุดีอาระเบีย โดยมีเป้าหมายในการเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายคลาวด์ระดับโลกและขยายบริการ AI และ SaaS
ขณะที่ SMIC ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีน กำลังขยายกำลังการผลิตเพื่อลดการพึ่งพาชิปนำเข้าจากตะวันตก โดยกำลังร่วมมือกับ Huawei ในการผลิตชิป AI Ascend 910C ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทันสมัยที่สุดของจีน และได้รับเงินอุดหนุนและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีชิปในประเทศ
นอกจากนี้ ความสำเร็จของ DeepSeek AI เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าจีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้เพิ่มงบประมาณวิจัยและพัฒนาในสาขานี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนในการแย่งชิงความเป็นผู้นำด้าน AI ภายในทศวรรษหน้า
อุตสาหกรรมที่ 2: รถยนต์ไฟฟ้าจีนและสมาร์ทคาร์
จีนได้สร้างสรรค์นวัตกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจนสามารถขึ้นแท่นผู้นำของโลก โดยมี BYD เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ ด้วยยอดขายที่ขึ้นมาใกล้เคียง Tesla ในปี 2024 และมีแนวโน้มที่อาจจะทำยอดขายได้สูงกว่า Tesla ในอนาคตอันใกล้ ด้วยจุดเด่นของ BYD ที่สามารถลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ LFP (Lithium Iron Phosphate) และปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่ให้สูงขึ้น ทำให้สามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่แข่งขันได้
นอกจาก BYD แล้ว Li Auto เลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่าง โดยเน้นผลิตรถยนต์ SUV ไฮบริดที่เหมาะสมกับตลาดเอเชีย ซึ่งยังมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ EV ไม่สมบูรณ์ ทั้งสองบริษัทมีจุดเด่นในการผสาน AI เข้ากับระบบขับขี่อัจฉริยะ ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจีนให้สามารถแข่งขันกับค่ายรถจากยุโรปและสหรัฐฯ ได้อย่างเต็มที่
การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ BYD มีปัจจัยหลักที่สนับสนุน ได้แก่ การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งในจีนและตลาดโลก ความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า ไปยังประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนจากนโยบายรัฐบาลจีน ที่ผลักดันการใช้พลังงานสะอาดผ่านมาตรการจูงใจ เช่น เงินอุดหนุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ BYD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้
อุตสาหกรรมที่ 3: สินค้าแบรนด์กีฬาและลักชัวรีจีน
ภาพลักษณ์ของสินค้าจีนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้ความสำคัญกับแบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น กระแส “Guochao” หรือ “ความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมจีน” ได้ผลักดันให้แบรนด์จีนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ANTA และ Li-Ning เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์จีนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งนวัตกรรมและคุณภาพสูง จนสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike และ Adidas ได้อย่างสูสี ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นการออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาดท้องถิ่น การดึงพรีเซนเตอร์ชื่อดังระดับโลก เช่น ไครี่ เออร์วิ่ง นักบาสเกตบอล NBA ที่เป็นพรีเซนเตอร์ของ ANTA
นอกจากนี้ แบรนด์เหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมกีฬา ทั้งในแง่ของการสร้างงาน การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดจนการเพิ่มรายได้ภายในประเทศ และลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากต่างชาติ
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของ ANTA และ Li-Ning คือการมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่นได้อย่างตรงจุด
Bosideng แบรนด์เสื้อกันหนาวของจีนก็กำลังขยายตลาดสู่ยุโรป โดยใช้กลยุทธ์การออกแบบที่ทันสมัยและวัสดุคุณภาพสูงเพื่อสร้างความแตกต่าง การให้ความสำคัญกับงานออกแบบและนวัตกรรมทำให้แบรนด์จีนได้รับการยอมรับในระดับสากลมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วน Laopu Gold แบรนด์เครื่องประดับลักชัวรีจากจีน สร้างความสำเร็จในตลาดด้วยกลยุทธ์ เช่น การออกแบบเครื่องประดับทองคำแบบดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์ การทำมือด้วยงานฝีมือคุณภาพสูง และการกำหนดราคาที่เน้นคุณค่าของงานศิลป์ ช่วยให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่ง และขยายช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มความน่าเชื่อถือ
อุตสาหกรรมที่ 4: การท่องเที่ยวและบริการ
การท่องเที่ยวของจีนกำลังฟื้นฟูอย่างน่าประทับใจด้วยมาตรการวีซ่า คาดว่าในปี 2025 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางต่างประเทศถึง 95 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 52% โดย Trip.com เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีน โดยบริษัทได้ใช้กลยุทธ์ G2 ประกอบด้วย การขยายตัวในระดับโลก (Globalization) และการให้บริการที่เป็นเลิศ (Great Services)
Trip.com ได้พัฒนาตนเองเป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและนำเสนอแพ็กเกจการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแม่นยำ
การเติบโตของ Trip.com สะท้อนถึงการลงทุนและการเติบโตในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และสร้างงานในจีน การเติบโตนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมและสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมที่ 5: อาร์ตทอยและวัฒนธรรมใหม่
อุตสาหกรรมอาร์ตทอยกำลังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้จีนมหาศาล โดย Pop Mart เป็นตัวอย่างของบริษัทที่สามารถพัฒนาตลาดนี้ให้เติบโตทั้งในจีนและต่างประเทศ ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) อย่าง Labubu และ Molly กลายเป็นของสะสมยอดนิยม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของจีน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอาร์ตทอยเติบโตคือกลุ่ม Gen Z ที่นิยมสะสมอาร์ตทอยมากขึ้น โดยมองว่าเป็นงานศิลปะรูปแบบใหม่
Pop Mart ใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพหลายอย่าง เช่น กลยุทธ์การตลาดแบบสร้างความขาดแคลนเพื่อกระตุ้นการซื้อ การเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องทำให้ผู้บริโภครู้สึกตื่นเต้นและอยากสะสม รวมถึงการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลก
ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ Pop Mart สามารถขยายตลาดไปต่างประเทศได้ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
โอกาสของประเทศจีนในความท้าทาย
แม้ว่าประเทศจีนจะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์และความตึงเครียดจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีโอกาสสำคัญในการฟื้นตัวและเติบโตต่อไป
วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นในปี 2024 อาจต้องใช้เวลาฟื้นตัว แต่ในครึ่งหลังของปี 2025 ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น และเริ่มมีเสถียรภาพอย่างมากในปี 2026
อย่างไรก็ตาม จีนได้เดินหน้าขยายตลาดส่งออกไปยังแอฟริกา ลาตินอเมริกา และอาเซียน เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และต่อสู้กับกำแพงภาษี 20% จากสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนของจีนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ รัฐบาลยังผลักดันให้เกิดการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
คว้าโอกาสกับผู้เชี่ยวชาญหุ้นจีน CGS International (Thailand)
CGS International Securities (Thailand) Co., Ltd. เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่โดดเด่นด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A+ (จัดอันดับโดย บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด) พร้อมด้วยรางวัลเกียรติยศต่างๆ เช่น
- FinanceAsia Awards 2024 – รางวัล Broker ในประเทศยอดเยี่ยม
- Institutional Investor Awards – อันดับ 1 ในด้านวิจัย และอันดับ 1 ในการเทรดและการดำเนินการ
- รางวัล โครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” เฟส 2 ประจำปี 2567 โดยสำนักงาน ก.ล.ต. – รางวัลการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน
- SET Awards 2024 – รางวัลบริษัทหลักทรัพย์ดีเด่น ประเภทนักลงทุนสถาบัน กลุ่มความเป็นเลิศทางธุรกิจ
- ACES Awards – บริษัทที่มีผลประกอบการยอดเยี่ยมในเอเชีย
- รางวัล 18th Alpha Southeast Asia Awards – Best Perpetual Bond 2024 รางวัลที่ปรึกษา การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
CGS International โดดเด่นด้านการวิจัยและการลงทุน ด้วยทีมวิจัยที่เคยได้รับรางวัลระดับแนวหน้า อาทิ รางวัล Best Research Team และ Best Research in ESG มีทีมนักวิเคราะห์มืออาชีพของ CGS International วิเคราะห์หุ้นได้ครอบคลุมถึง 83 ตัว
นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายที่แข็งแรง ครอบคลุมกว่า 15 ประเทศทั่วโลก มีสาขามากถึง 37 แห่ง และสาขาย่อยด้านหลักทรัพย์กว่า 495 แห่ง มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ใช้งานง่าย เข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ครบวงจร ทั้งหุ้น กองทุนรวม ตราสารอนุพันธ์ หรือตราสารหนี้
กองทุนส่วนบุคคล High Conviction China Focus เลือกหุ้นจีนคุณภาพสูง
กองทุนส่วนบุคคล High Conviction China Focus ของบริษัทหลักทรัพย์ CGS International (Thailand) เป็นกองทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นจีนที่มีศักยภาพเติบโตสูง กองทุนนี้มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้น่าสนใจ ดังนี้
1. เน้นลงทุนในหุ้นศักยภาพสูง:
คัดเลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โดยเน้นลงทุนแบบกระจุกตัวในหุ้นเกรด A ที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างละเอียด
2. ผลตอบแทนที่โดดเด่น:
ในปี 2024 กองทุน High Conviction China Focus สร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 63% และผลตอบแทนในปี 2025 ตั้งแต่ต้นปี ก็ทำได้สูงถึง 47% (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568) เนื่องจากการคัดเลือกหุ้นที่แข็งแกร่ง เช่น Pop Mart, Trip.com, BYD และ LAOPUGOLD ซึ่งเป็นหุ้นหลักในพอร์ตการลงทุน
3. ทีมผู้จัดการกองทุนผู้เชี่ยวชาญ:
ทีมผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญในตลาดหุ้นจีน และมีประสบการณ์ในการบริหารกองทุนมานานกว่า 15 ปี
4. ความน่าเชื่อถือ:
CGSI เป็นบริษัทหลักทรัพย์ในเครือ China Galaxy Securities บริษัทหลักทรัพย์ใหญ่อันดับ 3 ในประเทศจีน มีความน่าเชื่อถือสูง และมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึก และมีโอกาสในการลงทุนที่ดีกว่า
5. เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในระยะยาว:
กองทุน High Conviction China Focus เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เชื่อมั่นในการลงทุนแบบกระจุกตัว และมองหาผลตอบแทนที่โดดเด่นในระยะยาว
ด้วยศักยภาพของอุตสาหกรรมดาวเด่นทั้ง 5 นี้ ผนวกกับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้จีนเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตในระยะยาว การศึกษาและทำความเข้าใจในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการลงทุนในตลาดจีน
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2024/10/30/chinas-property-market-is-expected-to-stabilize-in-2025-.html?_trms=9b927e6024549d35.1741169812789
- https://www.reuters.com/world/china/chinas-home-price-outlook-2024-2025-worsens-2024-08-30/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: