จีน กำลังเตรียมระบบเพื่อจัดกลุ่มบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ตามความอ่อนไหวของข้อมูล ด้วยหวังจะลดความเสี่ยงที่ บจ. หลายร้อยแห่งจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
Financial Times รายงานว่า จีนกำลังจัดเตรียมระบบเพื่อจัดกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยจะจัดกลุ่มตามความอ่อนไหวของข้อมูลบริษัท ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่ บจ. จีนจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บริษัทจีนบางแห่งปฏิบัติตามกฎของสหรัฐฯ ที่กำหนดให้บริษัทมหาชนต้องอนุญาตให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถเรียกดูเอกสารด้านการตรวจสอบต่างๆ ของบริษัทได้
ผู้เชี่ยวชาญต่อสถานการณ์นี้ให้ข้อมูลว่า บริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่มีข้อมูลที่ไม่ละเอียดอ่อน กลุ่มที่มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และอื่นๆ ที่มีข้อมูลลับ ซึ่งจะต้องถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทางการจีนได้หารือกันว่าบริษัทที่อยู่ในหมวดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะสามารถปรับโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นไปตามข้อกำหนดได้หรือไม่ ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลจากเอาต์ซอร์ส
ระบบหมวดหมู่นี้จะเป็นข้อยินยอมสำคัญอันดับ 2 ของปักกิ่งในการขจัดข้อจำกัดในการอนุญาตให้สหรัฐฯ เข้าถึงการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขกฎที่มีมานานนับทศวรรษที่จำกัดกรอบการปฏิบัติในการแบ่งปันข้อมูลของบริษัทต่างประเทศ
หากเกิดเพิกถอนกิจการจำนวนมากจริงๆ จะนำไปสู่การแยกตัวทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีนครั้งสำคัญ และอาจกระเทือนต่อมูลค่าผู้ถือหุ้นราว 1.3 ล้านดอลลาร์ หากว่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของจีนประมาณ 260 แห่ง เช่น Alibaba, Yum China และ Weibo ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม Financial Times รายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีนยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้
โดยทั่วไปแล้วจีนจะต่อต้านการอนุญาตให้บริษัทจีนเปิดเผยและให้ข้อมูลแก่หน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศในด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่ภายใต้ระบบการจัดกลุ่มนี้ บริษัทที่ความเสี่ยงด้านข้อมูลต่ำจะสามารถเปิดเผยเอกสารด้านการตรวจสอบของบริษัทให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศได้ โดยกลุ่มที่ความเสี่ยงต่ำนี้อาจรวมถึงร้านค้าปลีกและเครือข่ายร้านอาหาร
“อะไรก็ตามที่อยู่ในหมวดเดียวกับ Didi นั้น ชัดเจนว่าไม่ต้องไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประทศ” หัวหน้าบริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ในฮ่องกงกล่าว โดยอ้างถึงกลุ่มเรียกรถที่ถูกปรับมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์โดย ก.ล.ต. จีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยความผิดที่ละเมิดความปลอดภัยด้านไซเบอร์
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ยังตั้งข้อสงสัยว่า บริษัทจีนจะปฏิบัติตามมาตรฐานความโปร่งใสทั้งหมดตามที่กำหนดภายใต้กฎหมาย Holding Foreign Companies Accountable Act กฎหมายปี 2020 ที่บังคับให้บริษัทจีนและฮ่องกงต้องเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวกับการตรวจสอบ ได้อย่างเต็มที่หรือไม่
“แม้ว่าจะมีการหารืออย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพระหว่างทางการสหรัฐฯ และจีน… ประเด็นสำคัญยังคงอยู่ และเวลากำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว” YJ Fischer ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการระหว่างประเทศของสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวในการปราศรัยในเดือนพฤษภาคม
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP