สำนักข่าว Bloomberg รายงานรวบรวมความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญที่ระบุตรงกันว่า ท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลจีนที่ประกาศเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในการยกระดับมาตรการควบคุมดูแลบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนที่เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ว่าจะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานของรัฐบาลจีนเสียก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงนักลงทุนให้เพิ่มความรอบคอบและความระมัดระวังในการลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ต่างมองไปในทางเดียวกันว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและการพัฒนาของบริษัทเทคโนโลยีของจีน เพราะแม้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนจะเร่งเดินหน้าพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ รวมถึงการเปิดกระดาน ‘Star’ ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นบริษัททางด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ และมีการปรับปรุงผ่อนคลายกฎที่ซ้ำซ้อนยุ่งยากเพื่ออำนวยความสะดวกในการระดมทุน กระนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมไปจดทะเบียนและขายหุ้น IPO ในตลาดต่างแดน โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลาดำเนินการเพียงไม่กี่สัปดาห์ เมื่อเทียบกับจีนที่ใช้เวลาร่วมหลายเดือน ทำให้ความตั้งใจของรัฐบาลจีนที่จะลดการพึ่งพาทุนจากสหรัฐฯ ไม่เป็นผลเท่าไรนัก
ทั้งนี้ การที่จีนตัดสินใจที่ออกมาเป็นมาตรการเชิงบังคับ เป็นการสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลจีนไม่ปรารถนาที่จะปล่อยให้ภาคธุรกิจมีขนาดใหญ่เกินความควบคุมของรัฐบาล
พอล กิลลิส ศาสตราจารย์ด้านการบริหารจัดการกวางหัวแห่งมหาวิทยาลัย Peking ในกรุงปักกิ่ง คาดการณ์ว่า ไม่น่าจะมีบริษัทจีนเข้าจดทะเบียนในสหรัฐฯ ในช่วงอีก 5-10 ปีข้างหน้า นอกเหนือไปจากที่บริษัทใหญ่ๆ 2-3 แห่ง ซึ่งน่าจะเป็นการจดทะเบียนซ้ำอีกรอบในตลาดรอง
สำหรับในส่วนของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ อยู่ก่อนแล้ว หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าบริษัทเหล่านี้อาจต้องเผชิญกับข้อบังคับที่ทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างจากรัฐบาลจีน จนต้องถอนตัวออกจากตลาดไป เหมือนเช่นกรณีที่รัฐบาลเข้าสกัดการทำ IPO ของ Didi Chuxing เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนน่าจะมีมาตรการที่ชัดเจนในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
งานนี้นักวิเคราะห์สรุปว่า นักลงทุนยังพอมีเวลาเตรียมตัวในการปรับพอร์ตการลงทุนของตนเอง ซึ่งหมายรวมถึงการขายหุ้นของบริษัทดังกล่าวก่อนที่จะมีการถอนตัวออกจากตลาดที่จะยังทำกำไรให้กับนักลงทุนได้บ้าง ขณะเดียวกันก็อาจจะลองสอดส่องบริษัทเทคโนโลยีจีนที่สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติของรัฐบาลจีนแทน
อ้างอิง:
