ดูเหมือนว่าหุ้นจีนที่ดิ่งลงเกือบ 60% จะกลายเป็นสัญญาณซื้อสำหรับใครหลายคนแล้ว เพราะจากแบบสอบถาม Markets Live Pulse ฉบับล่าสุดของ Bloomberg เกือบ 1 ใน 3 ของนักลงทุนจำนวน 417 ระบุว่าจะเพิ่มการลงทุนในจีนภายในปี 2024 และมีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่คาดว่าจะลดสัดส่วนการถือครองหุ้นจีน
หุ้นจีนที่เคยแตะจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 2021 และตั้งแต่นั้นมาก็ทรุดตัวลงเกือบ 60% เข้าสู่ภาวะซบเซาในตลาดอย่างรุนแรง ตามรายงานของ MSCI China Index การดิ่งลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้บริโภค และเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ปัจจุบันหุ้นจีนเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาถูกที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับผลกำไรที่ทำได้
บริษัทด้านการลงทุนหลายแห่ง เช่น Invesco และ Pzena Investment Management เริ่มให้ความสนใจกับหุ้นจีน
ผลการวิจัยล่าสุดของ Goldman Sachs ได้แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นอย่างอินเดียและบราซิลที่มีผลตอบแทนที่ดีกว่าในปี 2023 ทำให้เม็ดเงินลงทุนไปยังจีนอยู่ในระดับต่ำสุดเกือบทศวรรษ ขณะที่ข้อมูลสำรวจของ Bank of America พบว่าจีนเป็นตลาดในเอเชียที่มีน้ำหนักการลงทุนน้อยที่สุด นั่นหมายความว่ายังมีพื้นที่ให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีกมากภายในจีน
Alejandra Grindal หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Ned Davis Research กล่าวว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับจีนในตอนนี้คือปัญหาในภาคอสังหา เนื่องจากทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุดของครัวเรือนก็คือบ้าน ซึ่งเป็นที่ที่คนส่วนใหญ่ถือครองความมั่งคั่ง หากมูลค่าบ้านไม่เพิ่มขึ้นก็จะฉุดความมั่นใจของผู้บริโภค
อิทธิพลของทางการจีนที่ส่งผลอย่างรวดเร็วต่อบริษัทในจีนได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายเดือนธันวาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศร่างกฎหมายที่กำหนดเวลาและเงินที่ใช้ในการเล่นเกมออนไลน์ ส่งผลให้หุ้นบริษัทเทคหลายแห่งของจีนร่วงลงอย่างกะทันหัน
Nicholas Ferres ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Vantage Point Asset Management เปิดเผยว่าภาวะการขายหุ้นจีนอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นแม้ตลาดหุ้นจะมีมูลค่าถูกก็ตาม ซึ่งเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่หุ้นจีนอยู่ในภาวะขาลง
และมูลค่าหุ้นที่ถูกของจีนอาจเป็นปัจจัยที่ไม่เพียงพอต่อการซื้อหุ้น ปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้หุ้นจีนพุ่งขึ้นคือมาตรการผ่อนคลายของจีนบางรูปแบบ ตามแบบสำรวจ MLIV Pulse รวมถึงการซื้อหุ้นเพิ่มโดยกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
ข้อดีอย่างหนึ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับจีนก็คือ หากรัฐบาลมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเงินให้แก่ครัวเรือนบางประเภทที่ยังคงอ่อนแออยู่ก็จะทำให้ตลาดทุนได้รับอานิสงส์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ เช่น การฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีน และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลง
หลังจากปี 2023 ที่น่าเจ็บปวดสำหรับตลาดจีน หวังว่าในปี 2024 จะเป็นปีที่แตกต่างออกไป แต่ปัจจุบันนักลงทุนก็ยังคงมีความกังวลต่อจีน ผู้ตอบแบบสอบถาม MLIV Pulse เกือบครึ่งหนึ่งยังเชื่อว่าอินเดียมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด ตามมาด้วยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อ้างอิง: