หลังจากความขัดแย้งในยูเครน ทำให้รัสเซียและจีนพยายามที่จะหลีกหนีจากสกุลเงินดอลลาร์ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการชำระเงินทั่วโลก
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีแผนที่จะสร้างสกุลเงินเพื่อเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ ด้วยสกุลเงินต่างๆ ที่มีอยู่ในตะกร้าของกลุ่ม BRICS ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นักเศรษฐศาสตร์ฟันธง เงินเฟ้อ ทั่วโลกผ่านจุดพีค แต่จะไม่กลับไปต่ำเท่ากับช่วงก่อนโควิด
- วิเคราะห์ 5 สัญญาณ บ่งชี้ เงินเฟ้อ โลกใกล้ถึงจุดพีค
- 10 อันดับ สกุลเงินเอเชีย ที่อ่อนค่าสูงสุดนับจากต้นปี 2565
การสร้างทางเลือกในการชำระเงินที่นอกเหนือไปจากดอลลาร์ จะช่วยให้รัสเซียและจีนหลีกเลี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรมาเป็นเครื่องมือในการโจมตีรัสเซียและจีนก่อนหน้านี้
ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ของรัสเซียหลายแห่งต่างถูกถอดออกจาก SWIFT ซึ่งเป็นระบบชำระเงินระหว่างประเทศ ฉะนั้นแล้ว ทุนสำรองระหว่างประเทศในตะกร้าเงินของ BRICS จะเป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินอื่นนอกเหนือจากเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านนโยบายเกี่ยวกับสกุลเงินของญี่ปุ่น กล่าวว่า สกุลเงินภายใต้ BRICS ค่อนข้างอ่อนแอในมุมของความมีเสถียรภาพ สภาพคล่อง และความสามารถในการรักษามูลค่า คล้ายกับกรณีของสกุลเงิน Libra ของ Facebook ก่อนหน้านี้ที่ล้มเหลวลงไป
แต่รัสเซียและจีนได้เริ่มมองหาทางเลือกเกี่ยวกับระบบการชำระเงินอื่นๆ ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ อย่างในปี 2015 จีนได้สร้างระบบชำระเงินระหว่างธนาคารแบบข้ามประเทศ หรือ CIPS เพื่อเป็นทางเลือกในการโอนเงินแทนที่ระบบ SWIFT โดยมีธนาคารที่เข้ามามีส่วนร่วม 1,341 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารในญี่ปุ่น และธนาคารขนาดใหญ่อย่าง Deutsche Bank และ JPMorgan Chase
ข้อมูลจาก SWIFT ในปัจจุบันระบุว่า เงินหยวนของจีนมีสัดส่วนต่อการชำระเงินระหว่างประเทศคิดเป็น 2.17% ณ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 2.13% เมื่อ 2 ปีก่อน ถือเป็นสัดส่วนที่ยังต่ำมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ 41.16% และยูโร 35.55%
Rei Nakada แห่งสถาบันวิจัย Daiwa Institute of Research กล่าวว่า การคว่ำบาตรต่อรัสเซียทำให้จีนมองหาแนวทางในการปกป้องตัวเองจากการถูกคว่ำบาตรทางการเงินในอนาคต
ขณะที่ Masaya Sakuragawa อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ กล่าวว่า หากมองย้อนไปในประวัติศาสตร์ จะเห็นว่าบทบาทของสกุลเงินมักจะเปลี่ยนไปหลังสงครามครั้งสำคัญ อย่างดอลลาร์กลายเป็นสกุลเงินหลักของโลกหลังจากสหรัฐฯ เข้าไปช่วยฟื้นฟูยุโรปในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านแผนมาร์แชลล์ ขณะที่เงินหยวนของจีนอาจจะมีบทบาทมากขึ้นจากการเข้าช่วยเหลือรัสเซียหลังจากสงครามจบลง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP