ประธาน Renault ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์จากฝรั่งเศส ออกมาเปิดมุมมองต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าว่ากำลังจะถูกพายุจากจีนฟาดใส่ หลังจากที่ล่าสุดจีนออกมาตรการจำกัดการส่งออกแร่สำคัญ
Jean-Dominique Senard ประธานบริษัท Renault กล่าวกับ Reuters เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อิทธิพลของจีน ซึ่งทางซีอีโอ Renault ให้นิยามว่าเป็น ‘พายุจีน’ กำลังโหมกระหน่ำภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังเติบโตในภูมิภาคยุโรป เนื่องจากมหาอำนาจแห่งเอเชียครอบครองวัตถุดิบหลักในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
โดยคำเตือนของ Senard มีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่รัฐบาลจีนตัดสินใจจำกัดการส่งออกโลหะสองชนิด ได้แก่ แกลเลียมและเจอร์เมเนียม ที่ใช้ในเซมิคอนดักเตอร์และรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวควรเป็นสัญญาณเตือนภัยให้ผู้นำยุโรปตื่นตัว เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาจีนมากเกินไปของยุโรป รวมถึงทำให้เห็นความจำเป็นในการสร้างห่วงโซ่อุปทานให้หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง แม้จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงก็ตาม
ขณะเดียวกัน Senard แห่ง Renault ยังย้ำว่า พายุจีนที่เจ้าตัวหมายถึง ยังครอบคลุมถึงแรงกดดันที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีนไปยังยุโรป ซึ่งยุโรปสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แต่ก็ขาดเสถียรภาพ และจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อรับประกันความปลอดภัยมั่นคงของอุตสาหกรรม EV ยุโรป พร้อมเสริมว่าอุตสาหกรรม EV ยุโรปที่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีนสำหรับวัตถุดิบเป็นผลมาจากการลงทุนหลายปี ดังนั้นจึงต้องใช้เงินหลายพันล้านยูโรในการทำซ้ำ
รายงานระบุว่า ข้อจำกัดการส่งออกของจีนกำลังเพิ่มสงครามเทคโนโลยีกับสหรัฐฯ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกมากขึ้น โดยยุโรปพบว่าตัวเองเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อยู่ตรงกลางของความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจ กลายเป็นแรงกดดันให้มองหาทางเลือกอื่นเพื่อเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
Senard เตือนว่าหากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองขึ้นจริง ความเสียหายต่อโรงงานแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนโดยผลิตภัณฑ์ที่มาจากภายนอกเพียงอย่างเดียวจะมีมูลค่ามหาศาล ก่อนแนะว่าการพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือก เช่น เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์สังเคราะห์ (Synthetic E-fuels) และไฮโดรเจน จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่แบตเตอรี่ขาดแคลนกะทันหันเนื่องจากวัตถุดิบขาดแคลน พร้อมย้ำปิดท้ายว่า ยุโรปต้องมองหาทางเลือกอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประเทศเป็นอัมพาต หากแบตเตอรี่ในยุโรปหมด
อ้างอิง: