เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (MPS) ของจีน ประกาศ 12 มาตรการเอื้อชาวต่างชาติให้สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพิเศษ ที่มีทั้งหมด 60 มาตรการ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน และรัฐวิสาหกิจภายในจีนอีกด้วย
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป จีนจะผ่อนปรนการยื่นขอใบอนุญาตผู้พำนักถาวร (Permanent Residence) สำหรับชาวต่างชาติผู้มีความสามารถระดับสูง ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก และผู้ทำประโยชน์ดีเด่นให้ประเทศ อีกทั้งคู่สมรสและบุตรของชาวต่างชาติ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถยื่นขอได้ในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ จีนจะออกวีซ่าและใบอนุญาตการมีถิ่นพำนัก (Residence Permits) ระยะยาวให้กับชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจ ทำงาน หรือเรียนในจีน เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศ อีกทั้งผู้ที่ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัย สถาบันการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านความร่วมมือทางเทคโนโลยี จะได้รับวีซ่าหรือใบอนุญาตการมีถิ่นพำนักระยะเวลา 2-5 ปี
เฉินปิน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน (NIA) กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ออกวีซ่าและใบอนุญาตการมีถิ่นพำนักให้แก่ผู้ประกอบการ นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค และการจัดการที่เป็นชาวต่างชาติแล้ว 133,000 ครั้ง
พร้อมสนับสนุนและให้ความสะดวกในการยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตการมีถิ่นพำนักแก่ผู้สำเร็จการศึกษาชาวต่างชาติจากวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยที่สำคัญของจีน หรือมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง ที่เริ่มทำธุรกิจหรือได้รับเชิญให้ฝึกงานในจีนด้วย
ทั้งนี้ จีนกำลังพิจารณาจัดตั้งศูนย์บริการหรือสถานีตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ที่มีประชากรชาวต่างชาติจำนวนมาก เพื่อให้พวกเขาทำงาน เรียน และใช้ชีวิตได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ในขณะที่ เจียถงปิน รองผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการชาวต่างชาติภายใต้สำนักงานฯ กล่าวว่า นโยบายชุดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในจีน ซึ่งคาดว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยให้ชาวต่างชาติที่ทำงานในจีนได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ และดึงดูดเยาวชนต่างชาติที่มีความสามารถโดดเด่นมายังจีน
ภาพ: LMspencer / Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: