รัฐบาลปักกิ่งประกาศในระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในที่ประชุม 2 สภา ครั้งที่ 13 วาระที่ 4 ในวันนี้ (5 มีนาคม) ว่าจะมีการยกเครื่องระบบการเลือกตั้งของฮ่องกง เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้สมาชิกสภานิติบัญญัติ (Legislative Council: LegCo) ที่จงรักภักดีต่อจีนแผ่นดินใหญ่ เข้าคุมอำนาจรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าจีนจะไม่ยอมให้เกิดความขัดแย้งภายในฮ่องกงอีกต่อไป
หวัง เฉิน รองประธาน NPC เป็นผู้ประกาศความเคลื่อนไหวดังกล่าวท่ามกลางสมาชิกสภานิติบัญญัติหลายพันคนที่ร่วมการประชุม NPC ซึ่งถือเป็นการประชุมทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน
โดยหวังเผยว่ารัฐบาลปักกิ่งเรียกร้องให้มีการปรับปรุงกระบวนการเลือกตั้งฮ่องกงและขนาดของคณะกรรมการเลือกตั้ง เพื่อสร้างระบบเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่มีลักษณะเฉพาะในแบบของฮ่องกง
“ระบบเลือกตั้งที่รวมถึงวิธีการเลือกหัวหน้าผู้บริหารและการจัดตั้งสภานิติบัญญัติจะต้องมีการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและสะท้อนถึงหลักการและบรรทัดฐานทางการเมืองที่ประชาชนฮ่องกงจะบริหารฮ่องกง โดยให้ผู้ที่รักชาติเป็นแกนหลักของการบริหาร” หวังกล่าว
ภายใต้ร่างข้อเสนอดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงการจัดตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งฮ่องกง ซึ่งจะประกอบไปด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้สนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ และจะให้อำนาจเหนือสภานิติบัญญัติ โดยสามารถเสนอชื่อผู้สมัคร LegCo และเลือกสมาชิกส่วนใหญ่ของคณะกรรมการเลือกตั้งได้เอง
ขณะที่หวังไม่เปิดเผยรายละเอียดในร่างข้อเสนอยกเครื่องระบบเลือกตั้งฮ่องกง แต่สื่อท้องถิ่นของฮ่องกงรายงานว่า จะมีการเพิ่มที่นั่งสมาชิกของ LegCo จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 70 ที่นั่ง ซึ่งจำนวนสมาชิก LegCo ที่เพิ่มขึ้นนี้ ทางคณะกรรมการเลือกตั้งจะคัดสรรเอง และคาดว่าจะส่งผลอย่างมากต่อสัดส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติที่ได้รับเลือกโดยตรงจากประชาชน
ซึ่งหวังชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปเพื่อปิดช่องโหว่ของระบบเลือกตั้งฮ่องกงที่อนุญาตให้นักเคลื่อนไหวสนับสนุนการแยกฮ่องกงเป็นเอกราชจากจีนได้ลงสมัครรับเลือกตั้งและเป็นสมาชิก LegCo
ทั้งนี้ร่างข้อเสนอยกเครื่องระบบเลือกตั้งฮ่องกงดังกล่าวถูกยื่นต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนแล้ว โดยจะมีการอภิปรายเนื้อหาในระหว่างการประชุม NPC ที่มีกำหนดจัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4-11 มีนาคม
ซึ่งนอกจากนี้ในระหว่างการประชุม NPC ครั้งนี้ ยังมีวาระสำคัญอื่นๆ คือการอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปี ฉบับที่ 14 ที่มีการประกาศเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา
ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนเปิดเผยว่า ปีนี้รัฐบาลจีนได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 6% หลังจากที่ไม่มีการกำหนดในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน
ภาพ: Artyom Ivanov / TASS via Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: