เร่งตัดไฟ! จีน สั่งแบงก์ช่วยปล่อยกู้ให้บริษัทอสังหาที่ขาดสภาพคล่อง

คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารและประกันภัยของ จีน ได้ร้องขอให้สถาบันการเงินในประเทศปล่อยกู้ให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการคัดเลือกจากภาครัฐ ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตขาดสภาพคล่องจากกรณีที่ผู้ซื้อบ้านชาวจีนในหลายเมืองทั่วประเทศยุติการผ่อนชำระค่าบ้าน

สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวประกอบกับความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านใน 50 เมืองทั่วประเทศของจีนเริ่มทยอยปฏิเสธที่จะจ่ายค่าผ่อนบ้านให้กับโครงการที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงที่พวกเขาจะไม่ได้เข้าอยู่อาศัยในบ้านเหล่านั้นหากเกิดวิกฤตทางการเงินขึ้นกับบริษัทผู้พัฒนา โดยมีการประเมินว่าปัจจุบันมีโครงการอสังหามากกว่า 100 แห่งที่กำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าว

การหยุดผ่อนค่างวดบ้านของผู้ซื้อจำนวนมากทำให้หลายบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนยิ่งขาดสภาพคล่องรุนแรงขึ้นและไม่สามารถก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ ให้แล้วเสร็จได้

เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารและประกันภัยของจีนจึงได้ขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินให้ช่วยปล่อยกู้ให้กับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาที่ผ่านการคัดกรองจากภาครัฐแล้ว เพื่อให้บริษัทเหล่านี้มีสภาพคล่องในการสร้างโครงการต่างๆ ให้แล้วเสร็จจนส่งมอบบ้านให้กับผู้ซื้อได้ โดยเชื่อว่าเมื่อผู้ซื้อบ้านได้เห็นบ้านที่สร้างเสร็จแล้วก็จะสบายใจขึ้นและพร้อมที่จะกลับมาผ่อนชำระเหมือนเดิม

ปัจจุบันบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนหลายแห่งกำลังเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่องและมีความเสี่ยงจะผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้บริษัทเหล่านี้มีการกู้ยืมเงินผ่านการออกพันธบัตรเป็นจำนวนมาก แต่กลับนำเงินที่ได้ไปลงทุนในธุรกิจประเภทอื่นๆ จนเกิดปัญหาตามมา

นอกจากการปล่อยเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องแล้ว สถาบันการเงินของจีนยังถูกร้องขอจากหน่วยงานกำกับให้ช่วยส่งเสริมการควบรวมและเข้าซื้อกิจการระหว่างบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินยังต้องทำหน้าที่ช่วยสื่อสารให้ผู้ซื้อบ้านเข้าใจด้วยว่าพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

แม้ว่าธนาคารหลายแห่งในจีนจะออกมาระบุว่าสถานการณ์การหยุดผ่อนค่าบ้านที่เกิดขึ้นยังไม่รุนแรงและควบคุมได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ปัญหาอาจลุกลามบานปลายจนส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 20% หรือ 1 ใน 5 ของ GDP จีน

อ้างอิง: