จีนยกระดับเตือนภัย หลังพบกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองระบาดมองโกเลียใน

ทางการท้องถิ่นในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน ประกาศยกระดับเตือนภัยและป้องกันกาฬโรค ในเขตเมืองบายานเนอร์เป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับรองสูงสุด หลังพบผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วว่าติดเชื้อกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองจำนวน 1 ราย

โดยคณะกรรมาธิการสาธารณสุขเทศบาลเมืองบายานเนอร์ แถลงพบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อกาฬโรครายนี้ตั้งแต่วันเสาร์ (4 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่าเป็นคนเลี้ยงสัตว์ และล่าสุดอยู่ระหว่างกักตัวและรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาลภายในเมือง โดยยังมีอาการทรงตัว

ขณะที่ประกาศเตือนภัยและป้องกันกาฬโรคดังกล่าวจะมีผลต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งนอกจากการเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตัว และป้องกันความเสี่ยงในการระบาดจากคนสู่คน ยังมีข้อห้ามไม่ให้ล่าและรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น ตัวบ่างที่อาจเป็นพาหะของเชื้อกาฬโรค พร้อมทั้งขอให้ประชาชนรีบแจ้งเตือนทางการ หากพบตัวบ่างหรือสัตว์ชนิดใดป่วยตายหรือต้องสงสัยเป็นกาฬโรค หรือผู้ป่วยที่มีไข้สูงหรือเสียชีวิตอย่างกะทันหัน

นอกจากนี้มีรายงานว่า ทางการกำลังสืบสวนกรณีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองรายที่ 2 ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นเด็กอายุ 15 ปี แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแน่ชัด แต่คาดว่าอาจได้รับเชื้อจากการสัมผัสกับตัวบ่างที่ถูกสุนัขล่า

กาฬโรคต่อมน้ำเหลือนั้นเป็นหนึ่งในกาฬโรคที่มีทั้งหมด 3 ชนิด ซึ่งก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด ต่อมน้ำเหลืองบวม มีไข้สูง ตัวเย็นและมีอาการไอ โดยในอดีตนั้นเคยเป็นหนึ่งในโรคระบาดที่คร่าชีวิตประชากรทั่วโลกมากที่สุด แต่ปัจจุบันสามารถรักษาให้หายได้โดยง่าย

ในยุคศตวรรษที่ 14 พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคมากกว่า 50 ล้านคน ทั้งในทวีปแอฟริกา เอเชีย และยุโรป และในปี 1665 เคยเกิดการระบาดใหญ่ในกรุงลอนดอน คร่าชีวิตประชากรภายในเมืองไปกว่า 1 ใน 5 และในช่วงศตวรรษที่ 19 เกิดการระบาดใหญ่ในจีนและอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 12 ล้านคน

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: