ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนประจำเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.2% และคงที่เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 6.4% นับเป็นการขยายตัวต่ำสุดรอบ 14 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ขณะที่ โกลด์แมน แซคส์ หั่นคาดการณ์ GDP จีนเหลือ 4% ต่ำกว่าเป้าหมายรัฐบาล
วันนี้ (10 มิถุนายน) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% และเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกับเดือนเมษายนที่มีการขยายตัว 2.1%
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 6.4% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเมษายน ที่ขยายตัว 8% และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ ดัชนี PPI ในเดือนพฤษภาคม ยังขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 14 เดือน สาเหตุหลักมาจากความต้องการโลหะ อะลูมิเนียม และสินค้าอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ชะลอตัวลง หลังจากที่จีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองเศรษฐกิจสำคัญ ด้วยหวังจะควบคุมการระบาดของโควิด
โดยก่อนหน้านี้ จีนประกาศล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานาน 2 เดือน ก่อนที่จะประกาศยุติการใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้สั่งปูพรมตรวจเชื้อโควิดครั้งใหญ่อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากมีรายงานว่าพบการติดเชื้อในชุมชน ซึ่งมาตรการรอบใหม่นี้ได้สร้างความวิตกกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ สถาบันการเงินยักษ์ของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปี 2565 ลงสู่ระดับ 4% จากระดับ 4.5% โดยตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้ ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5%
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP