หุ้นฮ่องกง ร้อนแรงที่สุดในโลกช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ผ่านจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง

ตลาดหุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ที่ทำผลตอบแทนดีที่สุดในบรรดาดัชนีหุ้นหลักทั่วโลกในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยปรับตัวขึ้นราว 14%

ขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายส่วนส่งสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น เงินลงทุนไหลเข้าประเทศจีนนับตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่า เศรษฐกิจจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดและพร้อมที่จะเติบโตแล้วหรือยัง

ตัวเลขมหภาคหลายตัวส่งสัญญาณว่าจีนฟื้นตัวแล้ว

ดัชนีหุ้นหลักของจีนเกิดสัญญาณขาขึ้นเชิงเทคนิคในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2.3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 พฤษภาคม) ซึ่งทำให้ดัชนีปิดตลาดพุ่งสูงขึ้นถึง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน คิดเป็นผลตอบแทนมากถึง 11% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 6% ในช่วงเวลาเดียวกัน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากสัญญาณเศรษฐกิจเชิงบวกจากจีน ตัวเลขการส่งออกและการนำเข้าของจีนกลับมาเติบโตในเดือนเมษายน หลังจากที่หดตัวในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งสัญญาณว่าอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ท่ามกลางความท้าทายมากมายของรัฐบาลที่พยายามพยุงเศรษฐกิจที่สั่นคลอน

การส่งออกของประเทศจีนในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.5% จากปีก่อน ถือเป็นการฟื้นตัวอย่างมากหลังจากที่ตัวเลขดิ่งลงถึง 7.5% ในเดือนมีนาคม การนำเข้าในเดือนเมษายนยังเพิ่มขึ้น 8.4% สูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4.8% และฟื้นตัวจากตัวเลขที่หดตัว 1.9% ในเดือนมีนาคม ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) ขยายตัว 5.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยที่ 4.5%

นอกจากนี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (PMI) ของจีนอยู่ที่ 50.4 ในเดือนเมษายน โดยอยู่เหนือระดับ 50 จุด ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจจีนพ้นจากการหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

นักวิเคราะห์มอง ตลาดหุ้นจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

ข้อมูลล่าสุดจาก UBS Group AG แสดงให้เห็นว่า กองทุนที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่ได้ลดการถือครองหุ้นจีนลง 2.9% ในไตรมาสแรกของปี โดยเฉพาะในเดือนมกราคมที่หุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก ซึ่งอาจเป็นจุดต่ำสุดแล้วสำหรับตลาดหุ้นจีน

หลังจากนั้นดูเหมือนว่ากระแสเงินทุนจากต่างประเทศจะไหลเข้าสู่จีนอีกครั้ง เนื่องจากตลาดฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนเมษายน หุ้นที่มีมูลค่าไม่แพง ข้อมูลมหภาคที่ดีขึ้น และจุดยืนนโยบายที่สนับสนุนการเงินทุนจากทั่วโลก กองทุนต่างประเทศยังเพิ่มการถือครองหุ้นจีนเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนเมษายนอีกด้วย

นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลจีนก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนด้วยเช่นกัน คณะรัฐมนตรีระดับชาติของจีนได้ออกแนวปฏิบัติใหม่เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อสนับสนุนตลาดทุน โดยสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ เพิ่มอัตราการจ่ายเงินและจ่ายเงินปันผลหลายครั้งต่อปี ซึ่งรวมถึงก่อนวันหยุดปีใหม่จีนด้วย

จีนตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนหุ้นให้เป็นเสาหลักในการสร้างสินทรัพย์แทนที่อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์มองว่าตลาดจีนถูกประเมินมูลค่าต่ำเกินไปจากการที่ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก

Morgan Stanley เตือน อย่าไล่ซื้อหุ้นจีน เหตุการฟื้นตัวอาจหยุดชะงัก

ดัชนี Hang Seng ทำผลงานดีที่สุดในบรรดามาตรวัดหุ้นหลักๆ ทั่วโลกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารชั้นนำของโลกหลายแห่งตั้งแต่ UBS ไปจนถึง Goldman Sachs และ BNP Paribas หันมามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นจีน UBS แนะนำให้เพิ่มการลงทุนในหุ้นจีน Goldman Sachs มองว่า ตลาดอาจปรับตัวสูงถึง 40% จากมาตรการปฏิรูปตลาด ในขณะที่ BNP ปรับเป้าหมายสำหรับดัชนี MSCI China เพิ่มขึ้น 4%

แม้ว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกหลายอย่าง แต่ธนาคารชั้นนำของสหรัฐฯ อย่าง Morgan Stanley มองในมุมที่ต่างออกไปว่าตลาดหุ้นจีนกำลังส่งสัญญาณว่าอยู่ในโซนที่มีการซื้อมากเกินไป (Overbought) ในทางเทคนิค และผู้จัดการกองทุนทั่วโลกได้เพิ่มการถือครองไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีแรงขายทำกำไรหรือการเพิ่มขึ้นอาจหยุดชะงักได้

นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลประกอบการของบริษัทในขณะนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การฟื้นตัวยืนหยัดต่อไปได้ นอกจากนี้การบริโภคในประเทศและตลาดที่อยู่อาศัยอาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการปรับตัว ซึ่งบ่งบอกถึงแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อภาวะเงินฝืดและรายได้ของบริษัทในอนาคต

อ้างอิง: