ความเคลื่อนไหวดัชนี Hang Seng ฮ่องกง วันนี้ (15 มีนาคม) ลดลงต่อเนื่องอีก 3.1% จากวันก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี China A50 ของจีน ลดลง 2.23% ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาดัชนี Hang Seng ร่วงลงมาแล้วเกือบ 20% ส่วนดัชนีหุ้นจีนลดลงมาในระดับใกล้เคียงกัน
ปัจจัยกดดันหลักต่อหุ้นจีนในขณะนี้ประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่
- การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นทะลุ 5,000 คน สูงที่สุดนับแต่การระบาดในระยะแรกเมื่อ 2 ปีก่อน โดยตัวเลขการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกว่า 4,000 คน เกิดขึ้นในจังหวัดจี๋หลิน
- ความเสี่ยงที่หุ้นจีนซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะถูกถอดออกจากตลาด โดยเฉพาะแรงกดดันต่อหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ได้แก่ Alibaba, JD.com และ NetEase รวมถึง NIO ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนอยู่ทั้งหุ้นจีนและหุ้นสหรัฐฯ ต่างก็ร่วงลงมาแรงเช่นกัน
- การอ่อนค่าของดอลลาร์ฮ่องกงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใกล้จะขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้
นับแต่การเริ่มต้นปรับฐานของตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อ 13 เดือนก่อน ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนอย่าง Tencent และ Alibaba สูญเสียมูลค่าบริษัทรวมกันไปแล้วถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 32 ล้านล้านบาท โดย Tencent มูลค่าลดลงไป 5.3 แสนล้านดอลลาร์ ส่วน Alibaba มูลค่าหายไป 5.21 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่ดัชนี Hang Seng TECH ร่วงลงมากว่า 65% จากจุดสูงสุด จากปัจจัยลบหลากหลายด้าน ตั้งแต่การคุมเข้มของรัฐบาลจีนในด้านต่างๆ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และความเสี่ยงของการถูกถอดจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่บริษัท Meituan, Pinduoduo และ Kuaishou Technology ก็เป็นอีก 3 บริษัทด้านเทคโนโลยีที่มูลค่าหายไปในระดับ 1-3 แสนล้านดอลลาร์
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP