IHS Markit ผู้ให้บริการข้อมูลวิเคราะห์ชั้นนำสำหรับภาคธุรกิจ ประเมินว่า ดีมานด์การใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมจีนในปี 2020 อาจลดลงถึง 7.3 หมื่นล้านกิกะวัตต์ชั่วโมง หรือคิดเป็น 1.5% ของการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดในจีน เนื่องจากโรงงานหลายแห่งยังไม่สามารถเดินเครื่องผลิตสินค้าได้เต็มกำลังการผลิต หรือยังอยู่ในช่วงปิดโรงงาน สืบเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคโควิด-19
รายงานของ IHS Markit ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมจีนมีสัดส่วนถึง 67% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ โดยปริมาณการบริโภคพลังงานที่ลดลงจะเท่ากับปริมาณถ่านหินราว 30 ล้านตัน หรือก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ประมาณ 9 ล้านตัน
ส่วนข้อมูลจาก ICIS ระบุว่า เครื่องจักรทอผ้าในโรงงานสิ่งทอของจีนมีการผลิตสินค้าไม่ถึง 10% ของกำลังการผลิต ซึ่งถือเป็นอัตราการผลิตต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่จีนเป็นประเทศผู้ส่งออกสิ่งทอและเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ ทางการจีนพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในจีนไปแล้วกว่า 1,400 ราย และมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 60,000 ราย โดยหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลใช้คือ การขยายวันหยุดยาวช่วงตรุษจีน หรือให้พนักงานทำงานจากบ้าน นอกจากนี้โรงงานหลายแห่งก็ยังขยายเวลาปิดทำการ เพื่อป้องกันไม่ให้คนงานติดเชื้อไวรัสหลังกลับมาทำงาน
โจวซีโจว นักวิเคราะห์จาก IHS Markit กล่าวว่า หากเกิดกรณีเลวร้ายที่โรคโควิด-19 ระบาดหนักยืดเยื้อไปจนหลังเดือนมีนาคม อาจฉุดเศรษฐกิจจีนให้ขยายตัวช้าลงเหลือ 4.2% ในปี 2020 จากเดิมที่คาดการณ์ว่า จะเติบโตที่อัตรา 5.8% ขณะที่การใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% ลดลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 4.1%
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.nytimes.com/reuters/2020/02/14/world/asia/14reuters-china-health-power.html
- https://www.cnbc.com/2020/02/14/coronavirus-latest-updates-chinas-hubei.html