เจ้าหน้าที่จาก National Rural Revitalization Administration (NRRA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชนบท เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ทางการจีนไม่พบรายงานประชาชนที่กลับเข้าสู่ภาวะยากจนอีกครั้งอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแผนปฏิบัติการเพื่อบรรเทาความยากจนของรัฐบาลจีน ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ด้วยนโยบายและมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการจ้างงานและการพัฒนาชนบท
สวีเจียนหมิน เจ้าหน้าที่จาก NRRA กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ 65% ของผู้ที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง สามารถขจัดความเสี่ยงที่จะกลับมาสู่ความยากจนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ขณะที่ 35% ที่เหลือ ได้มีการดำเนินมาตรการสนับสนุนช่วยเหลือ ส่งผลให้ความเสี่ยงที่คนกลุ่มนี้จะกลับไปสู่ความยากจนลดน้อยลงเรื่อยๆ
NRRA ระบุว่า การเคลื่อนย้ายผู้คนออกจากความยากจนมีความสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่งของแผนดำเนินการ และการขยายผลสำเร็จของการบรรเทาความยากจนโดยรวม ซึ่งจากบันทึกสถิติพบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก สิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน ปี 2022 มีประชากรจีนถึง 4.594 ล้านคนสามารถหลุดพ้นจากสถานะยากจนและมีการงานอาชีพที่มั่นคงทำ
ทั้งนี้ ท่ามกลางความพยายามอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ในที่สุดรัฐบาลจีนก็สามารถประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับความยากจนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงเปลี่ยนนโยบายจากเดิมที่ทำให้พ้นความยากจน เป็นการเน้นไปที่แนวทางการป้องกัน เพื่อไม่ให้ประชากรจีนหวนกลับไปสู่ความยากจนอีก
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบในเขตปกครองตนเองซีจ้าง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคมที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีจีน หูชุนฮวา ได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการบรรเทาความยากจน และผลักดันให้ชีวิตความเป็นอยู่ในชนบทคึกคักและมีชีวิตชีวาในทุกด้าน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนจะไม่กลับไปสู่ความยากจนอีกเป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ รองนายกฯ รายนี้ ยังได้ชื่นชมแนวทางของหน่วยงานท้องถิ่นในการส่งเสริมให้คนในพื้นที่สามารถทำงานใกล้บ้าน มีการพัฒนาการเกษตรกรรม การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการสาธารณะในระดับมณฑล
หูชุนฮวา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การยกระดับการบรรเทาความยากจนให้มั่นคงและแข็งแกร่งขึ้น มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนโยบายที่จะนำพาจีนหลุดพ้นจากความยากจน พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้พยายามทำงานอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มรายได้ของประชาชนด้วยแนวทางต่างๆ เช่น การพัฒนาการเกษตรวิถีใหม่ การเลี้ยงสัตว์ การส่งเสริมการแปรรูปและการหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ตลอดจนการพัฒนาการท่องเที่ยวในชนบท เป็นต้น
รายงานระบุอีกว่า ทางการจีนเตรียมจะกระตุ้นผลผลิตทางการจีนเพื่อส่งเสริมการผลิตทางการเกษตรและส่งเสริมการฟื้นฟูชนบทรอบด้าน ตามที่เขียนไว้ในรายงานการทำงานของรัฐบาลประจำปีนี้ ซึ่งเผยแพร่ในเดือนมีนาคม โดยรัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ในการขจัดความยากจน ตลอดจนสร้างแนวทางป้องกัน เพื่อที่ประชาชนจะไม่กลับไปสู่มาตรฐานการครองชีพที่เข้าข่ายเรียกว่าภาวะยากจน
วันเดียวกัน Global Times รายงานว่า ยอดการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดผลิตรถยนต์พลังงานใหม่มีการเติบโตสูงสุดถึง 130% เนื่องจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมจัดการสลัดผลกระทบจากโควิดออกไปได้อย่างเห็นได้ชัด โรงงานผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่สามารถกลับมาทำงานของบริษัทรถยนต์ได้เร่งตัวขึ้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มการบริโภครถยนต์เริ่มมีผลบังคับใช้
China Association of Automobile Manufacturers (CAAM) หรือสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน พบว่า ในเดือนมิถุนายนยอดการผลิตรถยนต์ของจีนพุ่งขึ้นแตะ 2.49 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 28.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 23.8% เป็น 2.5 ล้านคัน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ทางการจีนได้ออกนโยบายที่เข้มข้น เพื่อรองรับการบริโภครถยนต์ของตลาด ซึ่งหมายรวมถึงผลการประชุมผู้บริหารของสภาแห่งรัฐ คณะรัฐมนตรีของจีน ที่ได้ประกาศการลดภาษีการซื้อรถยนต์โดยสารบางรุ่นมูลค่า 6 หมื่นล้านหยวน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และการลดภาษีการซื้อรถยนต์ลงครึ่งหนึ่ง หรือ 5% สำหรับรถยนต์ที่มีราคาต่ำกว่า 3 แสนหยวน พร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรหรือเล็กกว่า โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
ด้านข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรจีนพบว่า ในเดือนแรกหลังจากการบังคับใช้นโยบายใหม่ข้างต้น ปริมาณการซื้อรถยนต์สามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 7.1 พันล้านหยวน
นอกจากนี้ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ทางคณะผู้บริหารของสภาจีนระบุว่า กำลังพิจารณาขยายเวลาลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) โดยข้อมูลจากสมาคมฯ ยังแสดงให้เห็นว่า ในเดือนมิถุนายนการผลิต NEVs ทำสถิติสูงสุดที่ 590,000 และการขายทำสถิติสูงสุดที่ 596,000 หน่วยตามลำดับ เพิ่มขึ้น 130% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สามารถส่งออกรถยนต์ได้ถึง 1.22 ล้านคันในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 47.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากการลดภาษีซื้อรถแล้ว รัฐบาลท้องถิ่นยังได้ออกนโยบายกระตุ้นการบริโภครถยนต์อีกทางด้วย ตัวอย่างเช่น รัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เสนอเงินอุดหนุน 8,000 หยวนสำหรับการซื้อ NEV ในขณะที่เสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้ลงทุน 100 ล้านหยวน เพื่อจัดหาเงินอุดหนุนแก่ผู้บริโภคแต่ละรายที่ซื้อรถยนต์
จางเซียง นักวิจัยจากศูนย์วิจัยนวัตกรรมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนอร์ทไชน่า กล่าวถึงข้อมูลในเดือนมิถุนายน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจบรรลุผลตามที่ต้องการแล้ว และการส่งเสริมสนับสนุนการบริโภคช่วยขยายอุปสงค์ภายในประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี จะเพิ่ม GDP ในท้องถิ่น เพิ่มโอกาสการจ้างงาน และขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำยันปลายน้ำ
อ้างอิง:
- https://www.globaltimes.cn/page/202207/1270220.shtml
- https://www.globaltimes.cn/page/202207/1270271.shtml
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP