ธนาคารกลางจีน (PBOC) รายงานการเพิ่มสำรองทองคำเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน จีนได้กลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่ราคาทองคำเมื่อวานนี้ (6 มกราคม) ไต่ระดับขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 7 เดือน ที่ 1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดักข่าวดีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาชะลอตัว สะท้อนถึงประสิทธิภาพของนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC เพิ่มการถือครองทองคำอีกจำนวน 30 ตันในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสำรองทองคำเพิ่มเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งสำรองเพิ่ม 32 ตัน ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2022 จีนถือครองทองคำทั้งหมด 2,010 ตัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ธนาคารกลางหลายประเทศแห่ตุนทองคำเพิ่มเกือบ 400 ตัน ในไตรมาส 3 มากสุด ‘ในรอบ 55 ปี’
- มาตรการคุมโควิดของจีนจ่อฉุดดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ ตั้งแต่น้ำมัน เหล็ก ถึงถ่านหิน ซึ่งมักพุ่งสูงในช่วงฤดูหนาว
- สีจิ้นผิง ขึ้นเวที G20 เรียกร้องประชาคมโลกจับมือฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ก่อนหน้านี้ จีนรายงานปริมาณสำรองไม่บ่อยนัก การเพิ่ม 32 ตันในเดือนพฤศจิกายนเป็นการไหลเข้าที่รายงานครั้งแรกของประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 2019 ซึ่งการเติมครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้คือเดือนตุลาคม 2016
ขณะที่ Reuters รายงานว่า จีนเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก รองจากหลายประเทศซึ่งรวมถึงรัสเซีย เยอรมนี และสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลกถึง 8,133.5 ตัน
ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่า ในไตรมาส 3/22 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำรวมกันทั้งสิ้น 399 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อรายไตรมาสในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม WGC ไม่ได้ระบุว่าธนาคารกลางของประเทศใดเข้าซื้อทองคำเข้าสู่ระบบทุนสำรองในปริมาณสูงสุด แต่นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่าประเทศเหล่านั้นอาจเป็นจีนและรัสเซีย
ด้านความเคลื่อนไหวราคาทองคำเมื่อวานนี้ ราคาทองคำได้ขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยเคลื่อนไหวขึ้นมาแตะระดับ 1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากตลาดรอการอ่านตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ โดยมีคาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงเล็กน้อยในเดือนธันวาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัวลงหลังจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งจาก Fed ในปี 2022
นอกจากนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสัญญาณล่าสุดของ Fed ว่าธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลงในปี 2023 หลังจากที่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่แล้ว ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 ทำให้ราคาทองคำแท่งได้รับประโยชน์จากอุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัยที่ฟื้นตัว
อ้างอิง: