หุ้นของ China Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับสองของจีน ถูกสั่งระงับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังจากบริษัทถูกรัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลไห่หนานออกคำสั่งให้ทำการรื้อถอนอพาร์ตเมนต์ที่ก่อสร้างอย่างผิดกฎหมายบนเกาะเทียมใกล้ชายฝั่งจำนวน 39 แห่งภายใน 10 วัน
ข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลให้หุ้นของ China Evergrande ร่วงลงราว 2% ก่อนจะถูกระงับการซื้อขาย ขณะที่หุ้นของ Sunac China Holdings และ Shimao Group อีกสองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาฯ ของจีนร่วงลงกว่า 9%
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ในเดือนมกราคมนี้บริษัทอสังหาฯ ของจีนมีภาระหนี้พันธบัตร คูปอง และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ รวมถึงค่าแรงของแรงงานต่างด้าวที่ค้างชำระอยู่รวมกันคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.97 แสนล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าสถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นส่งผลให้ China Evergrande ระดมเงินมาชำระหนี้ได้ยากลำบากยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้อีกครั้ง
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา China Evergrade เพิ่งจะออกแถลงการณ์ถึงแนวโน้มทางธุรกิจของบริษัทที่เริ่มมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น โดยฮุยกาหยั่น (Hui Ka Yan) ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัทเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนส่งมอบอสังหาริมทรัพย์จำนวน 39,000 ยูนิตภายในเดือนธันวาคม
นอกจากนี้ เขายังกระตุ้นให้พนักงานร่วมมือร่วมใจต่อสู้เพื่อให้บริษัทสามารถกลับมาขายบ้านในโครงการต่อได้ จะได้มีสภาพคล่องมาใช้ชำระหนี้ต่อไป
แถลงการณ์ของ China Evergrande ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้บริษัทได้กลับมาดำเนินการก่อสร้างร่วมกับบริษัทพันธมิตร ซึ่งมากกว่า 80% คือบริษัทตกแต่ง และซัพพลายเออร์ในสัญญามากกว่า 6,869 แห่ง เพื่อเร่งดำเนินการสร้างบ้านในโครงการให้เสร็จสิ้นตามสัญญาโครงการที่ระบุไว้
คำมั่นสัญญาของประธานบริษัทข้างต้นมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนมีการวางแผนจัดการขั้นเด็ดขาดเพื่อกำจัดความเสี่ยงที่เกิดจากการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ค้างชำระโดยนักพัฒนาชั้นนำบางราย ขณะที่ทางธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศใช้นโยบายเพื่อปกป้องสิทธิทางกฎหมายของผู้ซื้อบ้าน
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP