บรรดานักลงทุนต่างหายใจหายคอกันได้คล่องมากขึ้น เมื่อรายงานข้อมูลความต้องการสินเชื่อในจีนฉบับล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 พบว่า ความต้องการสินเชื่อภายในประเทศของจีนปรับตัวดีขึ้น ขณะที่แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดเริ่มผ่อนคลายลง และเงินหยวนก็แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจและตลาดการเงินอาจมีเสถียรภาพมากขึ้นภายหลังจากการตกต่ำอย่างรุนแรง
นักวิเคราะห์เชื่อว่าตัวเลขความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยของครัวเรือนที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นผลมาจากการยื่นมือเข้ามาอุดหนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ของบรรดาหน่วยงานรัฐท้องถิ่น ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน และเงินหยวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากแรงหนุนของธนาคารกลางจีนในการเพิ่มแนวทางปกป้องค่าเงินหยวน
ข้อมูลเชิงบวกดังกล่าวช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในตลาดจีนมากขึ้น นอกจากนี้ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญยังพบว่า ราคาผู้บริโภคกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากลดลงในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่น้อยที่สุดก็ตาม ส่วนภาวะเงินฝืดก็ปรับตัวในช่วงที่แคบลงเช่นกัน
Zhang Zhiwei หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นของภาครัฐช่วยให้เศรษฐกิจจีนกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง สิ่งที่ต้องถามต่อจากนี้ก็คือรัฐบาลจีนจะสามารถรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจไว้ได้มากเพียงใด
รายงานระบุว่า ประเทศจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังพยายามฟื้นตัว เนื่องจากวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังดำเนินอยู่และความเชื่อมั่นที่อ่อนแอฉุดรั้งการฟื้นตัว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเป้าหมายการเติบโตประจำปีของรัฐบาลที่ประมาณ 5% โดยข้อมูลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ขณะที่สินเชื่อรายเดือนก็ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี
ด้าน Benchmark ของดัชนี CSI 300 ในตลาดจีน ปรับตัวเพิ่ม 0.7% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 กันยายน) หลังจากปรับตัวลดลงในแดนลบต่อเนื่องกัน 4 วันทำการ ขณะที่ค่าเงินหยวนยังแข็งค่าขึ้นหลังจากร่วงลงสู่จุดอ่อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากธนาคารกลางจีนได้ออกคำแนะนำที่เข้มงวดและเน้นย้ำถึงการยึดมั่นในการรักษาค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ
อ้างอิง:
