จีนตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับลิทัวเนีย ซึ่งเป็นการตอบโต้หลังรัฐบอลติกดังกล่าวอนุญาตให้ไต้หวันเปิดสถานทูตในทางพฤตินัยที่นั่น อย่างไรก็ตาม ลิทัวเนียอ้างว่าตนมีสิทธิ์ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับไต้หวัน แม้ว่าจะยังคงเคารพใน ‘นโยบายจีนเดียว’ ก็ตาม
ทั้งนี้สำนักงานใหม่ของไต้หวันในลิทัวเนียไม่ได้มีสถานะเทียบเท่าความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการยกระดับความสัมพันธ์กับไทเป ซึ่งจีนมองว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศ เพราะจีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
สำหรับสำนักงานใหม่แห่งนี้ใช้ชื่อว่าไต้หวัน แทนที่จะเป็น ‘ไชนีสไทเป’ ซึ่งเป็นชื่ที่หลายประเทศใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งกับจีน นอกจากนี้ยังเป็นสำนักงานทางการทูตใหม่แห่งแรกของไต้หวันในยุโรปในรอบ 18 ปี
กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในแถลงการณ์ว่า การอนุญาตให้ไต้หวันตั้งสำนักงานทางการทูตเป็นการกระทำที่ทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน อีกทั้งสร้าง ‘แบบอย่างที่ไม่ดีในระดับสากล’
ด้วยเหตุนี้จีนจึงประกาศลดความสัมพันธ์ลงสู่ระดับ ‘อุปทูต’ จากระดับเอกอัครราชทูตซึ่งเป็นระดับสูงสุด
ก่อนหน้านี้ไต้หวันมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับเพียงไม่กี่ประเทศ เนื่องจากจีนกดดันอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับปักกิ่งจะถูกบีบให้ยอมรับเงื่อนไขนโยบายจีนเดียว หรือการยอมรับว่ามีรัฐบาลจีนเพียงรัฐบาลเดียวที่ชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ
ด้าน อินกริดา ซิโมไนต์ นายกรัฐมนตรีลิทัวเนียออกมากล่าวปกป้องการตัดสินใจของประเทศในการยกระดับความสัมพันธ์กับไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ เลเซอร์ และสินค้าไฮเทครายใหญ่
“ลิทัวเนียต้องการความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์กับไต้หวันที่เข้มข้นขึ้น แต่ฉันอยากจะเน้นย้ำว่าก้าวย่างนี้ไม่ได้หมายถึงความขัดแย้งหรือการไม่เห็นด้วยกับนโยบายจีนเดียวแต่อย่างใด” นายกฯ ลิทัวเนียกล่าว
ภาพ: helloRuby via ShutterStock
อ้างอิง: