สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การที่โควิดหวนกลับมาระบาดในจีนอย่างหนักอีกครั้งหลังทางการยกเลิกมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด อาจทำให้โลกเผชิญกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความอันตรายอีกครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ายอดการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิดในจีนจะทะยานสูงขึ้นอย่างมาก ในขณะที่รัฐบาลจีนตัดสินใจไม่เปิดเผยข้อมูลด้านโควิดอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม โดยการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และผู้นำทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอดวิตกไม่ได้ว่า โลกอาจจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส
สาเหตุที่ทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลนั้น เนื่องจากสถานการณ์ในจีนแตกต่างออกไปจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เพราะในขณะที่นานาชาติพยายามต่อสู้กับโรคระบาดและระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง รวมถึงวัคซีนชนิด mRNA เท่าที่แต่ละประเทศจะจัดหาได้ แต่จีนกลับไม่ได้ใช้แนวทางเดียวกัน ผลที่ตามมาคือประชากรมีภูมิคุ้มกันระดับต่ำ และต้องเผชิญกับสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดได้ง่าย
แดเนียล ลูซีย์ นักวิจัยจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนการแพทย์จีเซลแห่งมหาวิทยาลัยดาร์ตมัธ กล่าวว่า “เราจะพบการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนในจีนในอีกหลายวัน หลายสัปดาห์ และหลายเดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่โลกต้องจับตาเพื่อที่จะได้ติดตามและดำเนินการอย่างรวดเร็วตั้งแต่เนิ่นๆ คือการถือกำเนิดขึ้นของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล เพราะมันอาจจะแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น อันตรายถึงชีวิตมากกว่าเดิม หรืออาจจะสามารถหลีกเลี่ยงยา วัคซีน และการตรวจจับจากการวินิจฉัยที่มีอยู่ในปัจจุบันได้”
ลูซีย์กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจสามารถเทียบเคียงได้กับการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาในอินเดียที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2020 ซึ่งตอนนั้นประชาชนหลายล้านติดเชื้อกันอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงแค่สั้นๆ ก่อนที่เดลตาจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โลกต้องเตรียมการป้องกันให้รัดกุม เพื่อให้วัคซีน การรักษา และมาตรการที่จำเป็นอื่นๆ พร้อมใช้งานในทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา สวีเหวินปั๋ว ผู้อำนวยการสถาบันการควบคุมและป้องกันโรคจากเชื้อไวรัสแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันจีนได้ติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนในจีนอย่างใกล้ชิด และได้ตั้งฐานข้อมูลลำดับไวรัสโควิดแห่งชาติ ซึ่งจะรวบรวมลำดับพันธุกรรมจากโรงพยาบาล 3 แห่งในทุกจังหวัดในแต่ละสัปดาห์ เพื่อติดตามว่ามีสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นหรือไม่
แฟ้มภาพ: Robert Way Via Shutterstock
อ้างอิง:
