Bloomberg รายงานว่า จีนได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของประเทศจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปจีน โดยถือเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลจีนในการบรรลุความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ในขณะที่เผชิญการกีดขวางจากชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐอเมริกา
รายงานอ้างอิงจาก Tianyancha ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทอย่างเป็นทางการ ระบุว่า กองทุนดังกล่าวคือกองทุนเพื่อการลงทุนอุตสาหกรรมวงจรรวมแห่งชาติระยะที่ 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Big Fund III ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม มีมูลค่ารวม 3.44 แสนล้านหยวน (ราว 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเป็นทุนจัดสรรจากรัฐบาลกลาง บรรดาธนาคาร และองค์กรของรัฐหลายแห่ง รวมถึง Industrial and Commercial Bank of China Limited
หลายฝ่ายมองว่า เครื่องมือการลงทุนล่าสุดนี้ เน้นย้ำถึงการผลักดันครั้งใหม่จากรัฐบาลประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในการสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนให้แข็งแกร่งและอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก หลังเผชิญกับกระแสกดดันและกีดกันอย่างหนักหน่วงจากสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการซื้อชิปขั้นสูงและอุปกรณ์การผลิตชิป โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ กำลังเรียกร้องให้บรรดาชาติพันธมิตร เช่น เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพิ่มมาตรการควบคุมให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และอุดช่องโหว่ในการควบการส่งออกที่มีอยู่
ทั้งนี้ ภายหลังการประกาศจัดตั้งกองทุนไม่นาน หุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของจีนในตลาดฮ่องกงปรับตัวพุ่งขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 พฤษภาคม) โดยมีหุ้นของบริษัท Semiconductor Manufacturing International Corp. ผู้ผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในจีน เพิ่มขึ้นมากถึง 8.1% ในขณะที่หุ้นของ Hua Hong Semiconductor Ltd. ซึ่งเป็นคู่แข่งรายเล็ก เพิ่มขึ้นมากกว่า 10%
ในส่วนของกองทุน Big Fund III ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือกระทรวงการคลังจีน ขณะเดียวกันก็มีบริษัทการลงทุนของรัฐบาลท้องถิ่นในเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง และกรุงปักกิ่ง เข้ามาให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในเซินเจิ้นที่รัฐบาลท้องถิ่นได้สนับสนุนโรงงานผลิตชิปหลายแห่งในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน
ด้านชาติมหาอำนาจฝั่งตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ระดมทุนได้เกือบ 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการผลักดันการผลิตเซมิคอนดักเตอร์รุ่นต่อไป โดย CHIPS and Science Act ของสหรัฐฯ ที่ได้รับการอนุมัติในปี 2022 ประกอบด้วยเงินช่วยเหลือ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ผลิตชิป ตลอดจนสินเชื่อและการค้ำประกัน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนสอดคล้องกับนโยบายอุตสาหกรรมเชิงรุกของประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน โดยนอกจากกองทุน Big Fund III แล้ว จีนกำลังเดินหน้าพัฒนาความพร้อมของประเทศในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือโครงการ Made in China 2025 ซึ่งเป็นร่างเป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ยานพาหนะไฟฟ้า และเซมิคอนดักเตอร์ โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนหลักจากรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนชิปแห่งชาติ เปิดตัวเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดยมีเงินลงทุนประมาณ 1 แสนล้านหยวน
อ้างอิง: