ทางการจีนประกาศเตรียมวางแผนห้ามผลิตและซื้อขายรถยนต์พลังงานน้ำมันเบนซินและดีเซล ดำเนินรอยตามประเทศนำร่องอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส
ประเทศจีนถือเป็นเจ้าของตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา จีนผลิตรถยนต์นับ 28 ล้านคัน โดยถือเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของรถที่มีการผลิตทั่วโลก
ซินกั๋วบิน (Xin Guobin) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยต่อสำนักข่าวซินหัวว่า “มาตรการต่างๆ จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของเราจนถึงแก่น” พร้อมระบุว่าทางการอยู่ระหว่างค้นคว้าประเด็นที่เกี่ยวข้องแต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีการบังคับใช้แผนเมื่อใด
ช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา ฝรั่งเศสและอังกฤษต่างพากันออกมาประกาศแผนลักษณะเดียวกัน พร้อมกำหนดการเริ่มในปี 2040 โดยถือเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่มีขึ้นเพื่อลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกและมลพิษที่สร้างภาวะโลกร้อน
ภายใต้แผนที่เสนอขึ้น รัฐบาลจีนต้องการให้มีการเพิ่มจำนวนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงรถยนต์แบบไฮบริดที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้ามากขึ้น โดยมีกำหนดให้เพิ่มอัตราส่วนการผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าวให้เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 พร้อมตั้งเป้าเพิ่มขึ้นปีละ 2 เปอร์เซ็นต์จนถึงปี 2020
บริษัทสัญชาติจีนอย่างจี๋ลี่ เจ้าของแบรนด์รถยนต์ Volvo เองวางแผนว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีนเพื่อเตรียมพร้อมส่งขายทั่วโลกในปี 2019
ขณะเดียวกัน บริษัทยนตรกรรมอื่นๆ รวมถึง General Motors, Volkswagen AG และ Nissan Motor ต่างมองหาบริษัทคู่ค้าในจีนเพื่อดำเนินกิจการร่วมค้าในการพัฒนาและผลิตพาหนะพลังงานไฟฟ้าในจีนด้วย
Cover Photo: STR/AFP
อ้างอิง: