เครื่องบินลาดตระเวนลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐฯ บินผ่านช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธวิธีของสหรัฐฯ เพื่อแสดงสิทธิในการปฏิบัติการบินเหนือน่านฟ้าสากล แม้จะถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากกองทัพจีนก็ตาม
กองเรือที่ 7 แห่งสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (27 กุมภาพันธ์) ว่า การบินของเครื่องบินลาดตระเวน P-8A Poseidon เหนือน่านน้ำที่กั้นระหว่างจีนกับเกาะไต้หวันนั้นเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ และแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ที่จะธำรงไว้ซึ่งความมีเสรีและเปิดกว้างในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
“สหรัฐฯ จะยังคงทำการบิน ล่องเรือ และปฏิบัติการทุกที่ที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต ซึ่งรวมถึงภายในช่องแคบไต้หวัน” แถลงการณ์ระบุ
อย่างไรก็ตาม พ.อ. ฉืออี้ โฆษกกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) กล่าวหาว่า วอชิงตันโหมกระพือสถานการณ์ให้ตึงเครียดยิ่งขึ้นผ่านปฏิบัติการบินดังกล่าว
การบินดังกล่าวของสหรัฐฯ “จงใจก่อกวนสถานการณ์ในภูมิภาค และเป็นอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน” โฆษกกล่าวในรายงานบนเว็บไซต์ภาษาอังกฤษของ PLA
ข้อกล่าวหาของโฆษกถูกขยายความให้ใหญ่ขึ้นโดยสื่อของทางการจีน เช่น แท็บลอยด์ Global Times ซึ่งรายงานว่า การที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินรบต่อต้านเรือดำน้ำและเครื่องบินตรวจการณ์ออกปฏิบัติการนั้น แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าสหรัฐฯ กระทำการยั่วยุโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างปัญหา
ทั้งนี้ จีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน และส่งเรือและเครื่องบินทหารเข้าไปในช่องแคบไต้หวันเป็นประจำทุกวัน โดยเมื่อวันอังคาร (28 กุมภาพันธ์) กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยว่า พบเครื่องบิน PLA จำนวน 14 ลำ และเรือเดินสมุทร 3 ลำรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเครื่องบิน 4 ลำในจำนวนนี้บินรุกล้ำเส้นกึ่งกลาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตอย่างไม่เป็นทางการระหว่างปักกิ่งและไทเปมานานหลายทศวรรษ
รายงานระบุว่า จำนวนตัวเลขในวันอังคารเพิ่มขึ้นจากที่ไต้หวันตรวจพบเมื่อวันจันทร์ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบิน 4 ลำและเรือ 3 ลำ ขณะที่ไม่มีลำใดข้ามเส้นกึ่งกลาง
ภาพ: Damon Coulter / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
