จีนเดินสายยกระดับกระชับความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรรอบด้าน โดยล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือในโครงการพัฒนาอวกาศกับรัสเซียเป็นเวลา 5 ปี ขณะเดียวกันก็ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันกับสิงคโปร์เพื่อพัฒนากองทุน ETF
ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าว Global Times ของทางการจีนรายงานบทสัมภาษณ์พิเศษกับ Roscosmos ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านอวกาศแห่งชาติของรัสเซีย ที่ระบุว่า รัฐบาลจีนกับรัสเซียเตรียมลงนามในโครงการความร่วมมือทางอวกาศระหว่างปี 2023-2027 ในปีหน้า ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างสถานีวิจัยนานาชาติลูนาร์ (International Lunar Research Station: ILRS) ให้สำเร็จภายในปี 2035 การพัฒนาสถานีระบบดาวเทียมภาคพื้นดินของทั้งสองประเทศ ตลอดจนความร่วมมือในการสำรวจและวิจัยอวกาศ
ขณะเดียวกัน Roscosmos ยังเน้นย้ำถึงเป้าหมายของการสำรวจและวิจัยอวกาศของรัสเซียกับจีนว่า จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด และเทคโนโลยีนวัตกรรมที่คิดค้นได้จะยกระดับสังคมโลกโดยรวม
วันเดียวกัน ทางสถานีโทรทัศน์ Channel NewsAsia ของสิงคโปร์รายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นของจีน และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) เพื่อเชื่อมโยงทั้งสองตลาดเข้าไว้ด้วยกัน ในการร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมตลาดกองทุน ETF ของสิงคโปร์และจีนผ่านการลงทุนข้ามพรมแดน
ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่จะช่วยเพิ่มทางเลือกด้านการลงทุนของทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณล่าสุดถึงความพร้อมของจีนในการเปิดตลาดการเงินของประเทศ โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางตลาดหลักทรัพย์จีนกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเพิ่งบรรลุข้อตกลงที่จะเพิ่มการซื้อขายกองทุน ETF ผ่านตลาดหุ้นของทั้งสองฝ่าย อีกทั้งทางการจีนยังประกาศแผนที่จะขยายความร่วมมือระหว่างตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้กับทางตลาดหุ้นในอังกฤษ เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์
Loh Boon Chye ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์กล่าวว่า ความต้องการกองทุน ETF ที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิภาคที่จะกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางกองทุน ETF ระดับโลก และหวังว่าความร่วมมือกับจีนในครั้งนี้จะสร้างโอกาสทางการลงทุนให้มากขึ้น
ด้าน ชาหยาน (Sha Yan) ประธานและซีอีโอของตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นกล่าวว่า ข้อตกลงครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสในการลงทุนข้ามพรมแดนของนักลงทุนจีนและสิงคโปร์
ทั้งนี้ ข้อมูลสิ้นสุดเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน กองทุน ETF ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์มีมูลค่าทรัพย์สินเกิน 12,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (8,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ในส่วนตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นมีกองทุน ETF ทั้งหมด 212 แห่ง คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง:
- https://www.channelnewsasia.com/business/china-shenzhen-stock-exchange-singapore-exchange-etf-markets-2405211
- https://www.globaltimes.cn/page/202112/1243731.shtml
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP