ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนแจ้งต่อสหประชาชาติในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า จีนตั้งเป้าเป็นประเทศปลอดคาร์บอนภายใน 40 ปีข้างหน้า โดยที่ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในจีนจะแตะระดับสูงสุดภายในปี 2030 และค่อยๆ ลดลงมา
สีจิ้นผิงกล่าวว่า จีนยึดมั่นการปฏิบัติตามพันธกรณีในความตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยึดถือเป็นแนวทางสู่การเป็นประเทศสีเขียวและคาร์บอนต่ำ
“เรากำหนดเป้าหมายปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงเพดานสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุการเป็นชาติปลอดคาร์บอนก่อนปี 2060” ผู้นำจีนกล่าว
สีจิ้นผิงย้ำว่า ข้อตกลงปารีสวางแนวทางขั้นต่ำในการปกป้องโลก ซึ่งเป็นมาตุภูมิร่วมกัน และทุกประเทศต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงนี้
การประกาศของจีนถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญ เนื่องจากจีนเป็นประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และเป็นชาติที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก โดยท่าทีของจีนสวนทางกับสหรัฐฯ ในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศหันหลังให้กับข้อตกลงไปก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์จาก HSBC Global Research มองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความประหลาดใจและเป็นเรื่องน่ายินดี อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดโรดแมปว่าจะบรรลุเป้าหมายการปลอดคาร์บอนในช่วง 40 ปีข้างหน้านี้ได้อย่างไร ซึ่งเป็นคำถามที่ยังต้องรอคำตอบ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: