ภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้พิจารณารายละเอียดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ‘ชิมช้อปใช้’ ระยะที่ 2 (เฟส 2) เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ในส่วนของกรมบัญชีกลาง ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมมาตรการได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการและมีเม็ดเงินกระจายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
มาตรการชิมช้อปใช้ระยะแรก ในขณะนี้มีร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 177,655 ร้านค้า โดยเป็นร้านค้ารายใหม่ที่วอล์กอินเข้ามาลงทะเบียนจำนวน 97,655 ร้านค้า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีแอปฯ ถุงเงินเดิมอยู่แล้วกว่า 50,000 ร้านค้า และร้านค้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC อีกกว่า 30,000 ร้านค้า
สำหรับการโอนเงินค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ ข้อมูล ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2562 กรมบัญชีกลางได้โอนเงินให้กับร้านค้าแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 8,676.8 ล้านบาท
แบ่งเป็น ร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 1 (ใช้จ่าย 1,000 บาท ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน) จำนวน 8,537.2 ล้านบาท และร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 2 (เติมเงินเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน เพื่อรับเงินคืน 15%) จำนวน 139.6 ล้านบาท
หากจำแนกเป็นประเภท จะแบ่งเป็นประเภท ชิม เป็นเงิน 1,241 ล้านบาท ประเภท ช้อป เป็นเงิน 4,847.1 ล้านบาท ประเภท ใช้ เป็นเงิน 116.4 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป เป็นเงิน 2,472.3 ล้านบาท
ทั้งนี้มีผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการและได้ใช้สิทธิ์วงเงิน 1,000 บาท ใน G-Wallet 1 หมดแล้ว สามารถเติมเงินของตนเองได้ในกระเป๋า G-Wallet 2 โดยสามารถใช้จ่ายเงินได้ทุกร้านทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้าน
ซึ่งการใช้จ่ายใน G-Wallet 2 จะได้รับเงินคืน 15% ของยอดใช้จริง รวมแล้วไม่เกิน 4,500 บาท (จากยอดใช้จ่ายสูงสุด 30,000 บาท) ดังนั้นผู้ที่ได้รับสิทธิ์แล้ว ให้รีบไปใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด
“ผู้ที่สนใจจะลงทะเบียนในเฟสสองขอให้วางแผนการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายเงินให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ และเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า