ลุงของเด็กๆ ชาวโคลอมเบียทั้ง 4 คนที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์หลังประสบเหตุเครื่องบินตกลงกลางป่าทึบเมื่อประมาณ 40 วันก่อน เปิดเผยว่าที่เด็กๆ รอดชีวิตมาได้นั้น เพราะพวกเขากินแป้งมันสำปะหลังประทังชีพ ประกอบกับเด็กๆ มีความคุ้นเคยกับผลไม้ที่อยู่ในป่าดิบชื้น จึงสามารถเลือกกินผลไม้ได้โดยไม่เป็นอันตราย ซึ่งสองอย่างนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขารอดชีวิตมาได้แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ลำพังโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือก็ตาม
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 1 พฤษภาคม เครื่องบิน Cessna 206 ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 7 ชีวิตที่กำลังเดินทางจากเมืองซาน โฮเซ เดล กัวเวียเร (San Jose del Guaviare) ในจังหวัดกัวเวียเร มุ่งหน้าสู่เมืองอะราราคัวรา (Araracuara) ในจังหวัดอามาโซนัส (Amazonas) ประสบอุบัติเหตุตกลงมาเนื่องจากปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ใหญ่ 3 คน รวมทั้งนักบินและ มักดาเลนา มูกูตูย์ (Magdalena Mucutuy) แม่ของเด็กๆ เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่พบร่างของพวกเขาอยู่ภายในเครื่องบิน ส่วนพี่น้อง 4 คนซึ่งมีอายุ 13 ปี, 9 ปี, 4 ปี และเด็กน้อยวัยเพียง 11 เดือน รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์หลังจากที่อยู่ลำพังในป่าลึกนานหลายสิบวันด้วยกัน
ฟิเดนซิโอ วาเลนเซีย (Fidencio Valencia) ลุงของเด็กให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนอกโรงพยาบาลในกรุงโบโกตา เมืองหลวงของโคลอมเบียว่า “เมื่อตอนที่เครื่องบินตก เด็กๆ ได้พยายามหาแป้งมันสำปะหลัง (Fariña) จากซากเครื่องบิน พวกเขาจึงรอดชีวิตมาได้ และหลังจากที่กินแป้งหมด เด็กๆ ก็เริ่มหันมากินเมล็ดพืชแทน” วาเลนเซียกล่าว
โดยจากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่วานนี้ เด็กๆ ทุกคนไม่มีอาการที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ร่างกายอ่อนแอและอิดโรย ซึ่งคาดว่าพวกเขาจะอยู่ในโรงพยาบาลอีกอย่างน้อยราว 2 สัปดาห์เพื่อให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
ดามาริส มูกูตูย์ (Damaris Mucutuy) ป้าของเด็กบอกกับสถานีวิทยุท้องถิ่นว่า “เด็กๆ สบายดี” แม้ตอนนี้จะมีภาวะขาดน้ำและมีแผลจากแมลงกัดต่อยบ้าง โดยเธอกล่าวเสริมด้วยว่า เด็กๆ ได้รับบริการด้านการดูแลสุขภาพจิตไปควบคู่กับการดูแลสุขภาพร่างกายภายนอกด้วย
นอกจากนี้ แอสทริด กาเซเรส (Astrid Cáceres) หัวหน้าสถาบันสวัสดิการครอบครัวแห่งโคลอมเบียกล่าวว่า เคราะห์ดีที่ช่วงเวลาที่เครื่องบินตกนั้นเป็นช่วงที่พืชผลต่างๆ กำลังงอกงามในป่าแอมะซอน ทำให้เด็กๆ สามารถเก็บผลไม้กินได้
นายพลเปโดร ซานเชซ (Pedro Sanchez) ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติการกู้ภัยเหตุเครื่องบินตกกล่าวว่า ทีมกู้ภัยเคยผ่านจุดที่พบเด็กๆ มาแล้ว 2-3 ครั้งในรัศมีประมาณ 20-50 เมตร แต่ก็พลาดไม่พบตัวเด็กๆ พร้อมกล่าวว่าเด็กๆ มีสภาพร่างกายที่อ่อนแอมาก พวกเขามีแรงเพียงพอแค่หายใจ หรือหยิบผลไม้ลูกเล็กๆ และดื่มน้ำเพื่อประทังชีพ โดยเมื่อวันศุกร์ (9 มิถุนายน) วิลสัน สุนัขดมกลิ่นสายพันธุ์เบลเยียมเชพเพิร์ดของทหารได้ติดตามเด็กๆ จนพบ หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาอยู่กลางป่าทึบนานหลายสัปดาห์ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีทั้งงู ยุง สัตว์ป่าต่างๆ ชุกชุม
เด็กๆ บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกเขาอยู่กับวิลสันซึ่งเป็นหนึ่งในฮีโร่ของปฏิบัติการครั้งนี้ระยะหนึ่ง ก่อนที่มันจะหายตัวไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งให้วิลสันหลงทางกลางป่าเพียงลำพัง เพราะตอนนี้ได้มีการเปิดปฏิบัติการค้นหาวิลสันแล้ว
กุสตาโว เปโตร (Gustavo Petro) ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ได้เดินทางเยี่ยมเด็กๆ ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาล ขณะที่ อีวาน เบลาสเกซ (Iván Velásquez) รัฐมนตรีกลาโหมบอกกับนักข่าวว่า เด็กๆ มีอาการขาดน้ำและยังไม่สามารถกินอาหารได้ แต่โดยรวมแล้วสุขภาพยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้กล่าวชมความกล้าหาญของเด็กๆ โดยเฉพาะพี่สาวคนโตที่มีความรอบรู้ในการเอาชีวิตรอดในป่าทึบ และพาน้องๆ ทุกคนให้สามารถรอดชีวิตมาได้
ภาพ: Colombian Military Forces / Handout/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: