ศึกอเมริกันฟุตบอล NFL นัดซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 57 โดยเป็นการพบกันระหว่าง แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ตัวแทนจาก AFC พบกับฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ตัวแทนจาก NFC ที่ สเตทฟาร์มสเตเดียม ในเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา คู่ชิงปีนี้ถือเป็นการพบกันของทีมอันดับที่ 1 ของทั้ง 2 สาย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 48 ด้วย
โดยก่อนเกมเริ่มมีพิธีการร้องเพลงสำคัญ 3 เพลงตามธรรมเนียม เริ่มจาก เชอร์ริล ลี ราล์ฟ ออกมาร้องเพลง Lift Every Voice and Sing ก่อนที่ Babyface จะมาร้องเพลง America the Beautiful ต่อด้วย คริส สเตเปิลตัน มาร้องเพลงชาติ ‘The Star-Spangled Banner’ ปิดท้ายก่อนเกมเริ่ม
เริ่มต้นควอเตอร์แรกได้อย่างดุเดือด โดยเป็นอีเกิลส์ที่ทำทัชดาวน์ก่อน จากการวิ่ง 1 หลาของ เจเลน เฮิร์ตส์ ให้ทีมนำ 7-0 ก่อนที่ แพทริก มาโฮมส์ จะมาปาบอลระยะ 18 หลา ให้เกมเสมอกัน 7-7
ควอเตอร์ 2 เปิดมาเพลย์แรก เฮิร์ตส์ที่ปาไกล 45 หลาไปเข้ามือ เอเจ บราวน์ ในเอนด์โซน ทำทัชดาวน์ พาฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์หนีไปเป็น 14-7
แต่หลังจากนั้น เจเลน เฮิร์ตส ทำบอลหลุดมือกลายเป็นฟัมเบิล ก่อนที่ นิค โบลตัน จะเก็บบอลและวิ่งพาเข้าเอนด์โซน ทำให้เกมเสมอกัน 14-14
แต่ เจเลน เฮิร์ตส์ ก็แก้ตัวได้สำเร็จด้วยการวิ่งพาบอลเข้าเอนด์โซนเอง ทำทัชดาวน์พาทีมขึ้นนำไป 21-14 ก่อนที่ ไดรฟ์ต่อมา แพทริก มาโฮมส์ จะมาโดนทับที่ข้อเท้าจนดูเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถพาทีมบุกขึ้นไปทำสกอร์ได้ และอีเกิลส์ลงมาสร้างไดรฟ์ให้ เจค เอลเลียตต์ เตะฟิลด์โกลระยะ 35 หลา เข้าไปให้ ‘อินทรีมรกต’ นำเมื่อจบครึ่งแรก 24-14
ช่วงพักครึ่ง รีฮานนา เล่นคอนเสิร์ตในช่วงฮาล์ฟไทม์โชว์ โดยที่เธอเล่นเพลง Bitch Better Have My Money, We Found Love, Rude Boy, Work, Only Girl (In The World) และ Umbrella ก่อนที่จะต่อด้วย All of the Lights, Run This Town และ Diamonds
โดยโชว์ของรีฮานนาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางโลกออนไลน์ว่าต่ำกว่ามาตรฐานของฮาล์ฟไทม์โชว์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่ครึ่งหลัง แพทริก มาโฮมส์ ลงมาแสดงให้เห็นว่า ข้อเท้าของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ด้วยการพาชีฟส์สร้างไดรฟ์ขึ้นมาก่อนที่ ไอเซียห์ ปาเชโก จะวิ่ง 1 หลาทำทัชดาวน์ให้ชีฟส์ไล่มา 21-24
แต่เฮิร์ตส์ก็ตอบโต้ด้วยฟิลด์โกลระยะ 33 หลาของ เจค เอลเลียตต์ ทำให้อีเกิลส์นำห่าง 6 คะแนน ที่ 27-21
ต้นควอเตอร์ 4 แพทริก มาโฮมส์ สร้างไดรฟ์ระยะ 70 หลา ก่อนปาทัชดาวน์ให้ คาดาเรียส โทนีย์ รับบอลระยะ 5 หลา ก่อนเข้าเอนด์โซน แบบไม่มีใครประกบ ทำให้ชีฟส์แซงนำเป็นครั้งแรกในเกมนี้ 28-27
หลังจากนั้น ชีฟส์นำห่าง 35-27 หลัง คาดาเรียส โทนีย์ วิ่งรีเทิร์นพันต์มาตั้งลูกจ่อที่ระยะ 5 หลา หน้าเอนด์โซนของอีเกิลส์ ก่อนที่มาโฮมส์จะปาทัชดาวน์ให้ สกาย มอร์ รับบอลระยะ 4 หลา ก่อนเข้าเอนด์โซนแบบโล่ง ๆ
ทางอีเกิลส์ไม่ยอมแพ้ง่าย หลังได้บิ๊กเพลย์จากการปาระยะ 45 หลาของ เจเลน เฮิร์ตส์ ให้ ดาวอนเท สมิธ ตั้งระยะบุกที่เส้น 2 หลาหน้าบ้านชีฟส์ ก่อนที่ เจเลน เฮิร์ตส์ จะวิ่งทำทัชดาวน์ด้วยตัวเอง และยังมาเล่น 2 พอยต์ คอนเวอร์ชันหลังทัชดาวน์ได้สำเร็จ ทำให้เกมเสมออีกครั้งกันที่ 35-35
ช่วงท้ายเกม แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เตะฟิลด์โกลระยะ 27 หลาขึ้นนำไป 38-35 เหลือเวลาแข่งขัน 8 วินาที ก่อนที่จะจบการแข่งขัน
จบเกมเป็นแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ หลังเอาชนะฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ไป 38-35