1 กรกฎาคม 2561 เวลา 17.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือทั้ง 13 นักเตะและโค้ชทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ว่างานส่วนใหญ่คืบหน้าไปในทางที่ดีมากๆ ส่วนที่สูบน้ำทำได้ดีและน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
การดำน้ำซึ่งนำโดยหน่วยซีลมีมนุษย์กบดำน้ำหน้างานเกือบ 60 นาย และได้สถาปนาพื้นที่โถง 3 เป็นจุดปฏิบัติงานของซีล
ส่วนการสำรวจช่องหรือโพรงบนดอยนั้นมีช่องที่มีศักยภาพอยู่ 3 จุด ยังอยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อขยายผลเพิ่มเติม
นอกจากนี้ผู้ว่าฯ เชียงรายยังแถลงชี้แจงข่าวลือและกระแสข่าวต่างๆ โดยยืนยันว่างบประมาณการดำเนินการเพียงพอ ไม่มีการเปิดช่องทางบริจาคเงินอย่างเด็ดขาด หากพบว่าแอบอ้างจะทำการดำเนินคดีทันที ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการกับกลุ่มคนที่รับบริจาคไปแล้ว 2 รายใน 2 จังหวัดคือที่เชียงรายและพระนครศรีอยุธยา
ส่วนประเด็นที่มีกระแสในโลกออนไลน์เรื่องการดูแลหน่วยกู้ภัยจีนที่มาช่วยเหลือว่าให้รับประทานข้าวเปล่านั้นไม่เป็นความจริง เพราะหน้างานมีอาหารเลี้ยงคนได้ 3,000-4,000 คนต่อวัน พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับทีมที่เข้ามาช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่สื่อมวลชนที่ต้องการจะนำโดรนขึ้นบินต้องขออนุญาตก่อน เนื่องจากถ้ำหลวงเป็นพื้นที่ควบคุมการบินและใกล้ชายแดน อาจจะกระทบความสัมพันธ์ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ด้าน พลตรี สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่าการที่หน่วยซีลตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่โถง 3 ไม่ได้หมายความว่าเขาหยุดอยู่ที่เดิม แต่มีการทำแนวเชือกไปข้างหน้า ล่าสุดไปได้ไกลจากโถงที่ 3 ประมาณ 600 เมตร
นอกจากนี้ทีมสำรวจได้เปิดพื้นที่ใหม่ที่ถ้ำทรายทองเพื่อเร่งการระบายน้ำ ทั้งสูบออกและเจาะน้ำบาดาล
ขณะที่ พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ชี้แจงกรณีเพจในโลกออนไลน์ทำคลิปเผยแพร่ข้อมูลว่ามีการจับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่กว่า 1 ล้านเม็ด และพยายามเชื่อมโยงว่าการหายตัวไปของน้องทั้ง 13 คนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าถ้ำหลวงไม่เคยเป็นทางผ่านหรือทางลำเลียงยาเสพติด และถ้ำหลวงไม่ใช่พื้นที่สีแดง