วันนี้ (17 พฤษภาคม) เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวเรื่องความร่วมมือในการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ โดยระบุว่า หลังได้รับแจ้งจากเรือนจำกลางเชียงใหม่ว่าพบผู้ต้องขังติดเชื้อ 37 ราย จาก 82 ราย แดนแรกรับ มีการแพร่กระจายต่อเนื่อง เพราะผู้ต้องขังต้องทำกิจกรรมร่วมกันในแดนอื่น จึงมีการลงพื้นที่หาแนวทางจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ เพราะมีการระบาดเพิ่มขึ้น โดยใช้ระบบ Bubble & Seal เพื่อปิดกั้นการระบาดออกสู่ภายนอก แต่สถานการณ์ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดจากผู้ต้องขังหมด 6,311 คน พบการติดเชื้อ 3,793 คน
เจริญฤทธิ์กล่าวว่า จากที่มีหลายคนกังวล แต่เชียงใหม่ตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อในพื้นที่ปิด จึงมีการหารือและใช้วิธีการควบคุมโรคในวันที่ 26 เมษายน ระยะเวลา 28 วัน แบบล็อกดาวน์ทุกห้อง ทุกแดน และตรวจค้นผู้ต้องขังทุกคน ตรวจการสร้างภูมิคุ้มกันโรคทุก 14 วัน 2 รอบ จนกระทั่งรอบสุดท้ายที่ตั้งไว้ให้เหลือผู้ไม่มีภูมิคุ้มกัน 10% มีการตรวจหาเชื้อทั้งหมดและสามารถส่งคืนได้ครบ 28 วัน และจะใช้เวลาในการปฏิบัตการอีก 5 วัน คาดว่าเรือนจำกลางเชียงใหม่จะปลอดโรคในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
เจริญฤทธิ์กล่าวต่อว่า ช่วงนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 สถานการณ์น่าพอใจ และมีทิศทางไปตามแผนงานในการดูแลรักษาและดูแลการแพร่ระบาด ความสำเร็จเป็นไปในทางที่น่าพอใจนี้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ประสานงานและสนับสนุนทีมแพทย์กองเสนารักษ์ กองทัพบก และเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่เข้าดำเนินการในพื้นที่ โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ที่เปิดให้ใช้พื้นที่เต็มที่
“ญาติผู้ต้องขังไม่ต้องห่วง เพราะผู้ต้องขังได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ตัวเลข 3 พันกว่าคนที่ติดเชื้อ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ทุกคน แม้แต่คนที่พ้นโทษยังต้องกักตัว 14 วัน ขอให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภายนอก และจากความร่วมมือที่ทำให้การควบคุมเป็นไปตามแผนและเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผลกระทบในเชิงการแพร่ระบาดของการใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชน” เจริญฤทธิ์กล่าว
สำหรับตัวเลขล่าสุดในขณะนี้ เรือนจำกลางเชียงใหม่มีผู้ต้องขัง จำนวน 6,311 คน ติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 3,793 คน หรือคิดเป็น 60% ของผู้ต้องขังทั้งหมด เป็นผู้มีภูมิคุ้มกันในตนเองแล้วจำนวน 1,532 คิดเป็น 1 ใน 4 หรือ 24.27% ของผู้ต้องขังทั้งหมด และมีผู้ติดเชื้อที่กำลังจะพ้นระยะการกักตัวใน 1-2 วันนี้ อีกกว่า 1,600 คน หรือคิดเป็น 44% ของผู้ต้องขังทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 อีก 923 คน ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดได้เกิดขึ้นจากกระบวนการตรวจวิเคราะห์อย่างมีระบบและมีมาตรฐาน ผ่านการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง และการตรวจหาภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล