×

สว. ฉัตรวรรษ แจงไม่ทราบว่าสื่อสัมภาษณ์ ขอโทษปมใช้คำพูดรุนแรง มองข้อกล่าวหาหมายเรียกคดีฮั้ว ประเด็นไม่ชัดเจน

โดย THE STANDARD TEAM
15.05.2025
  • LOADING...

วันนี้ (15 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. แถลงข่าวกรณีที่เมื่อวาน (14 พฤษภาคม) มีนักข่าวโทรมาสอบถามกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะการกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)

 

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ชี้แจงว่า เมื่อวานตนเองเพิ่งลงจากเครื่อง ยังปรับตัวไม่ได้ และมองว่าการกระทำเช่นนี้ไม่สมควร การพูดคุยก็คือการพูดคุย ไม่ควรอัดคลิปและนำไปออกข่าวนำเสนอ หากบอกก่อนว่าจะอัดคลิปเพื่อเสนอข่าว ตนเองก็จะใช้คำพูดอีกแบบหนึ่ง วันนี้จึงมาขอโทษในสิ่งที่พูดไป

 

“ถ้าสังคมเข้าใจว่าผมเป็นคนก้าวร้าว ไม่เคารพในองค์กร จึงขออนุญาตบอกว่า ผมไม่มีจิตใจแบบนั้น การแถลงข่าวของผมทุกครั้งจะเคารพในองค์กรทุกองค์กร จึงอยากขอโทษ โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงขอโทษสังคมจริงๆ หากข่าวนั้นได้เผยแพร่ไปที่ใดก็ตาม และผมไม่ถือโทษผู้ที่อัดคลิป แม้จะมองว่าเป็นการผิดจริยธรรมของสื่อมวลชน ซึ่งผมและ สว. ทุกคน ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลและพิสูจน์ทุกเรื่อง ซึ่งจะชี้แจงตามข้อเท็จจริงเมื่อทุกอย่างเป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย สุจริต โปร่งใส” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าว

 

เตรียมนัดหารือ สว. ทุกคนที่โดนหมายเรียก

 

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ยอมรับว่า เป็นคนหนึ่งที่ได้รับหมายเรียก ซึ่งตนเองเป็นข้าราชการตำรวจ การเชิญบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือเป็นพยานต้องชี้แจงประเด็นที่สงสัยว่าเข้าประเด็นใดบ้าง ไม่ใช่แจ้งข้อกล่าวหาแล้วบอกว่าเป็นการกระทำผิดในการได้มาซึ่ง สว. อย่างเดียว ซึ่งก็ไม่รู้จะไปตอบในประเด็นไหน จึงอยากย้อนถามกลับไปว่า ผู้ตั้งคำถามตามที่กล่าวหานั้นมีประเด็นจะให้ตอบหรือไม่

 

“ท้ายประเด็นก็แจ้งมาอีกว่า จะไปให้ถ้อยคำหรือไม่ไปก็ได้ อันนี้อยู่ในเอกสาร ผมอ่านดูแล้ว ถ้าสอบกันโดยเที่ยงธรรมต่อ 100 คน แนวคิดในการสอบสวน ไม่ใช่ท่านมาเอากลุ่มหนึ่งกลุ่มใดและไปตั้งกันสีนั้นสีนี้ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าข้อมูลท่านเป็นอย่างไร ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านก็สามารถรวบรวมข้อมูลเสนอพิจารณาได้เลย การไปและไม่สามารถไปตอบคำถามท่านได้ก็ไม่มีประโยชน์” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าว

 

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ เปิดเผยว่า จะไปหารือกับ สว. ทุกคนที่ถูกเรียก หรือจะต้องถูกเรียกในอนาคตให้เป็นรูปแบบเดียวกัน เพราะยังมีเวลาระหว่างคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของ กกต. จะเรียก ทั้งนี้ ไม่ใช่การล่วงเกิน แต่ด้วยความเข้าใจส่วนตัวที่ผ่านมา การสอบของ DSI เป็นคดีพิเศษก็ทำไป จึงเพียงโต้แย้งไปว่า การสอบนั้นไม่มีอำนาจ อย่าลืมว่ามีกฎหมายให้อำนาจมีหน้าที่เสร็จแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบ

 

ไม่ก้าวล่วงคำสั่งศาล ยืนยัน DSI ทำงานไม่โปร่งใส

 

สำหรับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวาน มองว่าสาเหตุหลักๆ เป็นเพราะอะไรจึงสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ไม่ทราบและไม่ก้าวล่วง แต่การดำเนินการของ DSI มีความไม่โปร่งใส ทำให้ประชาชนที่ถูกเรียกสอบเป็นพยาน โดยเฉพาะในจังหวัดอำนาจเจริญ ทำให้ สว. อำนาจเจริญ ได้รับความเดือดร้อนจากคนที่ถูกพนักงานสอบสวนของ DSI สอบ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม รู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ จึงร้องเรียนมาที่ สว. อำนาจเจริญ และนำมาเสนอที่วุฒิสภา

 

“ผมพิจารณาแล้วเห็นควรให้ยื่นเพิ่มเติมไปต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่าการสอบสวนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน แต่เป็นการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ แต่จะเป็นเพราะประเด็นนี้หรือไม่ ผมไม่ทราบ ไม่อาจก้าวล่วงการพิจารณาของศาลได้” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ระบุ

 

ส่วนแนวทางการต่อสู้ประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องสัญญาว่าจะให้ พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า การจะต่อสู้คดี เราจำเป็นต้องได้ข้อเท็จจริงจากข้อกล่าวหาก่อนว่า ตนเองไปสัญญาว่าจะให้กับใครที่ไหน อย่างไร เพื่อให้มีประเด็นที่จะไปตอบคำถาม ถ้าบอกแค่ว่ามีความผิดเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว. แบบกว้างๆ ก็ไม่รู้ว่าจะไปตอบประเด็นไหน ซึ่งวันนี้กลับมาอ่านเอกสารแล้ว จะกลับไปทำคำชี้แจงของตัวเอง พร้อมยืนยันว่า จะชี้แจงอย่างแน่นอนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่จะต้องเป็นขั้นเป็นตอน แต่ถ้า กกต. ไม่เชื่อตรงไหน จะกำหนดวันไปชี้แจงด้วยตนเอง

 

สว. ถูกกระทำฝ่ายเดียว เป็นจำเลยสังคม

 

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ย้ำว่า เรื่องความไม่เชื่อมั่นการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนฯ นั้น ย้ำว่า ไม่ได้เป็นการต่อสู้ แต่เป็นการพิสูจน์การได้มาซึ่ง สว. ทุกคน เราพร้อมให้พิสูจน์ เราไม่ได้ไปรบกับใคร แต่ถูกกระทำฝ่ายเดียวมาตลอดจากการให้สัมภาษณ์สื่อ แต่เราไม่มีอะไรไปต่อสู้ ทั้งที่ทุกวันนี้เราแทบจะเป็นจำเลยของสังคม แต่เราก็ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อ ตราบใดที่ กกต. รับรองเราว่ามาโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และเสนอมาที่เลขาธิการวุฒิสภารับรองให้เราปฏิบัติหน้าที่ เราก็ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจที่ให้ไว้เท่านั้น ไม่ได้ไปก้าวก่าย

 

“เขาได้พยานจากไหนผมไม่ทราบ แต่เมื่อมาประเมินแล้วว่าในชุดนี้มีเจ้าหน้าที่ DSI ด้วย จึงน่าจะรับการตรวจสอบของ DSI ทั้งหมดเข้ามาพิจารณา และใช้อำนาจคณะกรรมการสอบสวนฯ เรียก สว. เข้าไปให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสารไปชี้แจง ซึ่งเราอาจต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เพราะอาจมี สว. ติดภารกิจหรือเดินทางไปต่างประเทศ และส่วนตัวจะขอตั้งหลักก่อน เพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ระบุ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising