วานนี้ (1 สิงหาคม) วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 265 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล, พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ได้ยินสูตรดังกล่าวมาเหมือนกัน มีข่าวลือมาเข้าหู ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้เท่ากับว่ารัฐบาลมีจำนวน 265 เสียง และฝ่ายค้านมีจำนวน 235 เสียง ซึ่งหมายความว่าเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรต้องยึดมั่นกันทำงานให้ดี เพราะจะมีความอ่อนไหวพอสมควร อย่างไรก็ตามการจะได้เสียงมาให้ครบ 376 ที่นั่งเป็นการบ้านของพรรคเพื่อไทย ว่าจะหาเสียงมาเติมได้อย่างไร เพราะไม่มั่นใจว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้การสนับสนุนหรือไม่อย่างไร
“ยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่ผมได้ยินข่าวลือลอยมาเหมือนกัน เพราะมีคนนั้นคนนี้เริ่มพูดถึง แต่ยังไม่ได้รับการพูดคุยอย่างเป็นทางการจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง” วราวุธกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเสียงหมิ่นเหม่เช่นนี้ มองว่าความเป็นไปได้มีมากน้อยเพียงใด วราวุธกล่าวว่า ย้อนกลับไปการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 รัฐบาลก็เสียงปริ่มน้ำเช่นกัน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ก็มีความเข้มแข็งมากขึ้นจนจบสมัย
“หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลายฝ่ายเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว เมื่อรับรองทั้ง 500 คนแล้ว ก็แสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ยิ่งทอดเวลาไปนานก็จะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของต่างชาติ ดังนั้นในวันที่ 4 สิงหาคมนี้มั่นใจว่าจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรี ส่วนจะเป็นใครต้องรอฟังจากทางพรรคเพื่อไทย เมื่อเสนอแล้วมั่นใจว่าการลงคะแนนจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะหากยังไม่ได้รัฐบาลก็จะก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้แล้วยังจะล่าช้าออกไปอีก การทำงานในแต่ละภาคส่วนจะได้รับผลกระทบไปตามกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ” วราวุธกล่าว
