วันนี้ (9 มิถุนายน) น.ต. เจริญพร เจริญธรรม ร.น. กรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเส้นทางระหว่างท่าเรือปากเกร็ดถึงท่าเรือวัดราชสิงขรได้กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาอยู่ที่ 32.99 บาทต่อลิตร ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 บริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราค่าโดยสารเรือธงส้ม ธงเหลือง ธงเขียว ขึ้น 1 บาท จากอัตราเดิม ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกรมเจ้าท่าที่ 110/2559 เรื่อง ประกาศอัตราค่าโดยสารเรือกลประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลงวันที่ 29 กันยายน 2559 ดังต่อไปนี้
- เรือธงส้ม: เส้นทางนนทบุรี-วัดราชสิงขร จากราคา 15 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 16 บาท (ตลอดสาย)
- เรือธงเหลือง: เส้นทางนนทบุรี-สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท (ตลอดสาย)
- เรือธงเขียว
– เส้นทางปากเกร็ด-นนทบุรี จากราคา 13 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 14 บาท
– เส้นทางนนทบุรี-สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท
– เส้นทางปากเกร็ด-สาทร จากราคา 32 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 33 บาท
ราคาค่าโดยสารดังกล่าวเป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 29.01 บาท ถึง 33 บาทต่อลิตร ตามประกาศของกรมเจ้าท่าที่ 110/2559
- เรือธงแดง (ปรับอากาศ): นนทบุรี-สาทร ราคา 30 บาทตลอดสาย คงเดิม (ราคาปกติ 50 บาท)
น.ต. เจริญพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารมาเป็นระยะเวลานาน เพราะคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการเป็นหลัก แต่ผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดโควิด เมื่อรวมกับภาวะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ทำให้ทางบริษัทจำต้องปรับค่าโดยสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในกรณีที่ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ฯ ตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 110/2559 บริษัทจะปรับลดอัตราค่าโดยสารต่อไป