วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ศาลแรงงานกลาง ถนนพระราม 4 พนักงานและผู้ผลิตรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมในหลายๆ กรณี อาทิ พนักงานในสังกัด ของบริษัท บางกอกเอนเตอร์เม้นท์ ถูกเหมารวมในการเลิกจ้าง กรณีไม่บอกกล่าวล่วงหน้า โดยให้พ้นสภาพโดยทันที
หลังการหารือกับเจ้าหน้าที่ด้านนิติกรของศาล วรชิต ตรีพืช อดีตโปรดิวเซอร์สายการเมือง ตัวแทนพนักงานช่อง 3 ที่ถูกเลิกจ้าง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเกาะติดรายงานข่าววันนี้ว่า ขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนที่มาช่วยพวกเราในวันนี้ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน
สำหรับการเดินทางมาที่ศาลแรงงานกลางในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการวางบรรทัดฐานให้กับอาชีพสื่อมวลชน เพราะต้องยอมรับว่าช่วงนี้อาชีพสื่อเป็นช่วงขาลง เราต้องการให้เป็นบรรทัดฐานในการเกิดกรณีแบบนี้กับช่องอื่นๆ
“เราไม่มีความผิดอะไร วันนี้มาขอความเป็นธรรม การคืนช่องก็มีการยกเลิกขอคืนไป 2 ช่อง แต่ช่อง 3 หลัก หรือช่อง 3 ออริจินัล ในส่วนของบริษัท บางกอกเอนเตอร์เม้นท์ มาโดนด้วย ทำไมถึงมีปรับโครงสร้าง ยกเลิกสัญญาจ้าง ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของการคืนช่อง เราได้ทักท้วง สอบถามผู้ใหญ่และฝ่ายกฎหมาย แต่ก็ไม่มีเหตุผลคำอธิบายให้เรา” ตัวแทนพนักงานที่ถูกเลิกจ้างกล่าว และบอกอีกว่า
ได้มีความพยายามสอบถามว่าผู้บริหารมีหลักเกณฑ์อย่างไรในการเลิกจ้างพนักงานกว่า 200 คน เราไม่ได้ฟ้องช่อง แต่วันนี้เรามาปรึกษาหารือกับทางนิติกรของศาล และจะสอบถามไปยัง กสทช. ด้วย กรณีการดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบมีอย่างไร เพราะเราไม่ทราบเงื่อนไขตรงนี้
เมื่อถามว่าได้รับการดูแลจากช่องอย่างไร วรชิตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้บริหารบอกว่าจะให้เงินชดเชย จะได้มากกว่าตามที่กฎหมายกำหนด เท่าที่ดูแล้วมันยังไม่ใช่ หลายคนทำงานมา 20-30 ปีแล้วถูกเลิกจ้าง การที่จะให้เขาไปหางานอื่นทำค่อนข้างยาก มันเป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านมามีหลายสื่อขอข้อมูลเราเพื่อเอาไปโจมตีช่อง 3 แต่เราก็ให้ไม่ได้ เพราะที่นั่นคือบ้านของเรา
ที่ผ่านมามีการแจ้งล่วงหน้าเมื่อ 9 กรกฎาคม แล้วให้มีผล 31 กรกฎาคมทันที มีการเรียกคนไปเซ็นชื่อว่าจะไม่มีการฟ้องร้อง ที่ผ่านมาไม่มีใครบอกเราในรายละเอียด แม้แต่หัวหน้างาน บอกว่ามีการปรับโครงสร้างลดพนักงาน แต่กลับมีการรับพนักงานใหม่เพิ่มเข้ามา ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าอะไรคือการปรับโครงสร้าง
วันนี้มาขอรับคำปรึกษาว่าทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง นิติกรก็ได้ให้ข้อคิด ข้อแนะนำ แล้วจะกลับไปพูดคุยหารือกับสมาชิกในกลุ่มก่อน วันนี้ยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นวันนี้ตนเองมาเป็นตัวแทนมารับทราบจากนิติกรเท่านั้น
วรชิตกล่าวตอนท้ายอีกว่า อยากฝากถึงผู้บริหาร โดยเฉพาะระดับสูงว่า ควรรับฟังพนักงานและตอบคำถามพนักงานด้วย ที่ผ่านมาเงียบอย่างเดียว พวกเราทำอะไรไม่ได้ เพราะติดเงื่อนไขจะทำให้บริษัทเสียหาย ซึ่งเราก็เข้าใจ ซึ่งช่อง 3 เป็นบ้านของเรา ส่วนตนเองทำงานที่นี่มา 23 ปี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า