ในอีก 7 เดือน CHANEL ก็เตรียมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการแฟชั่นอีกครั้ง หลัง Matthieu Blazy จะนำเสนอคอลเล็กชันแรกในฐานครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ช่วงต้นเดือนตุลาคม แต่ก่อนโมเมนต์ที่หลายคนรอคอยจะเกิดขึ้นนั้น ผลงานดีไซน์แต่ละคอลเล็กชันก็ยังอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ของทีม Creation Studio ที่ต้องบอกว่าทำได้อย่างน่าชื่นชมและเข้าใจดีเอ็นเอของแบรนด์ได้อย่างดี
ล่าสุดกับ Spring/Summer 2026 คอลเล็กชัน Ready-to-Wear ทาง CHANEL ก็ยังจัดโชว์ ณ Grand Palais สถานที่อันเปรียบเสมือนบ้านของแบรนด์ในการจัดโชว์ช่วงวันสุดท้ายของปารีสแฟชั่นวีคในแต่ละซีซัน โดยคราวนี้ทาง Creation Studio ก็ได้นำริบบิ้นสีดำอันเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์และไอเท็มที่ Gabrielle Chanel โปรดปรานมาเป็นนางเอกของคอลเล็กชัน ซึ่งเห็นได้ตั้งแต่การแนบมาในบัตรเชิญ จนกระทั่งมาที่โชว์ก็เห็น Installation ริบบิ้นยักษ์ดีไซน์โดย Willo Perron มาเป็น Set Piece สำคัญที่แขกหลายคนก็ต่างอยากสแนปภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำเหมือนกับอีกหลายโชว์สำคัญของ CHANEL
ตัวริบบิ้นได้ถูกนำมาเติมแต่งในหลายบริบทบนเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นบนคอเสื้อเบลาส์ มาเป็นลายพิมพ์บนชุดเดรส ผูกด้านบนสเวตเตอร์ หรือจะมาในรูปทรงกระเป๋าที่เชื่อว่านักสะสมกระเป๋า CHANEL ต้องไปลงชื่อบน Waiting List เรียบร้อย ส่วนอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ถูกนำมาใช้ก็คือมุก (Pearl) ที่มาในรูปแบบสร้อยคอ กระเป๋า Crossbody จนถึงตกแต่งส้นรองเท้า ซึ่งมีความสนุกขี้เล่นและมีความชวนนึกถึงการดีไซน์ของ Karl Lagerfeld ที่ฉลาดในการนำสัญลักษณ์ต่างๆ มาตีความใหม่และกลายเป็นไอเท็มไอคอนิกที่คนจดจำ
เห็นได้ชัดมาตั้งแต่แคมเปญกระเป๋า CHANEL 25 ที่ได้ Dua Lipa มาเป็นพรีเซนเตอร์ จนถึงโชว์ Fall/Winter 2025 ทางแบรนด์ CHANEL ได้กลับมาจัดจ้านอีกครั้ง ยกระดับเรื่องสเกลของโชว์ และนำความเป็นป๊อปคัลเจอร์มาอยู่ใน Ecosystem อีกครั้ง ซึ่งหากถามว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดไหม อันนั้นคงต้องให้แบรนด์ตอบเอง แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาที่วงการลักชัวรีดูซบเซาลงและหลายแบรนด์ต้องนิ่งขึ้น ก็ดีที่ CHANEL จะมาโชว์ว่าแฟชั่นก็ยังยิ่งใหญ่และสร้างแรงบันดาลใจได้ แม้ทุกอย่างมีขึ้นมีลงหมด
ภาพ: CHANEL
