หลังจากที่ Chanel ได้ประกาศช่วงปลายปีที่แล้วว่า Jennie Kim แห่งวง BLACKPINK และ Global Brand Ambassador ของแบรนด์มาตั้งแต่ปี 2017 ได้ถูกรับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของคอลเล็กชันเครื่องประดับ Fine Jewelry อย่าง Coco Crush 2022 ล่าสุดทาง Chanel ปล่อยภาพลุคบุ๊กฉบับเต็มออกมาให้ชมกันแล้ว
ภาพลุคบุ๊กในครั้งนี้ถ่ายทำที่กรุงปารีส โดยได้ช่างภาพแฟชั่นชื่อดังอย่าง Karim Sadli มาถ่ายให้ ซึ่งนอกเหนือจาก Jennie แล้ว ในแคมเปญนี้ยังมี Adesuwa Aighewi นางแบบเชื้อสายไทย-ไนจีเรีย, Giedre Dukauskaite นางแบบชาวลิทัวเนีย, Cristiano Palmerini นายแบบเชื้อสายอิตาเลียน-บราซิลเลียน-ญี่ปุ่น และนายแบบชาวอังกฤษ Matthew Bell มารวมอยู่ด้วย
สำหรับไลน์เครื่องประดับชั้นสูง Coco Crush เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2015 รวบรวมไอเท็ม ทั้ง กำไล แหวน สร้อย และต่างหู โดยดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลาย Quilt ที่ปรากฏตัวครั้งแรกบนกระเป๋าสุดคลาสสิกรุ่น 2.55 ของ Chanel เมื่อปี 1955 ซึ่งตอนนี้แต่ละไอเท็มก็มีให้เลือกกันในเวอร์ชันทองคำ (Yellow Gold), ทองขาว (White Gold) และ Beige Gold พร้อมมีทั้งแบบประดับเพชรและแบบไม่มี
การที่ Chanel ได้เลือกให้ Jennie มาเป็นพรีเซนเตอร์หลักของแคมเปญ Coco Crush 2022 เป็นการตอกย้ำอิทธิพลของเธอ และศิลปินดาราเกาหลีใต้โดยรวมที่นับวันจะมีมากยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้ Jennie ก็เพิ่งขึ้นแคมเปญคอลเล็กชัน Coco Neige ไปเมื่อปี 2021 แถมเมื่อสัปดาห์ก่อนทาง Chanel เปิดตัวไลน์สกินแคร์ใหม่ Nº1 de Chanel ที่ได้เพื่อนของ Jennie และนักแสดงเรื่อง Squid Game อย่าง Jung Ho-yeon มาเป็นพรีเซนเตอร์อีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ การที่ Chanel เลือกให้ผู้หญิงเชื้อสายเอเชียอย่าง Jennie และ Jung Ho-yeon มาอยู่เบื้องหน้าบนแคมเปญระดับโลกก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการตลาดสำคัญที่ช่วยสะท้อนการสร้างความหลากหลายแบบ Inclusive ให้เกิดขึ้นสำหรับแบรนด์ ซึ่งถึงแม้เมื่อก่อนมีนางแบบชาวเอเชียขึ้นแคมเปญอยู่บ่อยครั้ง แต่พวกเธอมักเป็นแค่ตัวประกอบมากกว่า และไม่ได้เด่นถึงขั้นนี้
แต่บทบาทของผู้หญิงชาวเอเชียไม่ได้เพียงจะอยู่เบื้องหน้าของ Chanel เท่านั้น เพราะเบื้องหลังทางแบรนด์ก็เพิ่งแต่งตั้งผู้หญิงชาวอินเดียอย่าง Leena Nair ให้มาเป็นซีอีโอคนใหม่อีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เธอรับตำแหน่งเป็น Chief Human Resources Officer ของบริษัท Unilever มาก่อน โดยการที่ Chanel เลือกเธอให้มารับตำแหน่งนี้ ก็ได้รับคำชื่นชมมากมายจากวงการ เพราะเป็นการคิดนอกกรอบที่ไม่จำเป็นต้องเลือกคนภายในวงการแฟชั่นเท่านั้นเพื่อมาเป็นซีอีโอ แถมไม่ได้จำเป็นต้องเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงผมบลอนด์ผิวขาวอย่างเดียว ซึ่งหลายแบรนด์คู่แข่งยังคงไม่หลุดออกจากบริบทนี้
ภาพ: Chanel