หลังจากวานนี้ (6 ธันวาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เข้าสลายการชุมนุมชาวบ้าน ‘เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น’ ที่เดินทางมาปักหลักบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลในเวลา 21.00 น. เพื่อทวงสัญญาในการแก้ไขปัญหากรณีการก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่
ล่าสุดวันนี้ (7 ธันวาคม) ตัวแทนกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นได้นัดแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว นำโดย ไครียะห์ ระหมันยะ ลูกสาวทะเลจะนะ กล่าวว่า มีกลุ่มเด็กๆ ที่ลุง ป้า น้า อา ถูกจับ พี่น้องจะนะเดินทางมาเพื่อที่จะปกป้องบ้านของตัวเอง เนื่องจากกำลังมีนิคมอุตสาหกรรมทำลายล้างชีวิตเกิดขึ้น ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้เพียงแต่จะมาบอกกับนายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นพ่อบ้านที่ต้องดูแลชาวบ้าน แต่สิ่งที่ได้รับ 1 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการทำสัญญากับชาวบ้านเพื่อประเมินผลกระทบว่ามีสิ่งใดที่สามารถทำให้สามารถพัฒนาอยู่ร่วมกันได้ เด็กและผู้ใหญ่เพียงแต่ออกมาส่งเสียง
ไครียะห์ยังระบุว่า ไม่มีใครอยากออกมานั่งข้างถนน แต่มาในฐานะลูกทะเลจะนะ เพื่อมาอ่านแถลงการณ์กับเหตุการณ์ที่รัฐบาลได้ทำไว้เมื่อคืนนี้ ตนและลูกหลานได้รับทราบจากผู้ที่ถูกคุมขังว่าจะไม่ดำเนินคดีกับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เพื่อแลกกับการเคลื่อนไหวต่อต้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งทางกลุ่มก็พร้อมที่จะต่อสู้ แม้ว่าจะออกมาก็จะยังคงออกมาเรียกร้องยังทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ไครียะห์ยังระบุว่า การมาในครั้งนี้เพราะในพื้นที่กำลังจะมีการผลักดันอุตสาหกรรม โจทย์นี้ชาวจะนะไม่ได้ทำผิด เพียงแต่มาเรียกร้องสิทธิ มองว่าการทำ MOU ของรัฐบาลมั่วไปหมด ซึ่งจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อคืนนี้จะมีการปรึกษาและเคลื่อนไหวกันภายใน ซึ่งเครือข่ายใน 5 จังหวัดชายแดนใต้จะมารวมตัวกันที่จะนะอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารือว่าจะมีการเคลื่อนพลมายังทำเนียบรัฐบาลหรือไม่
หลังจากนั้นไครียะห์ได้อ่านแถลงการณ์โดยมีเนื้อหาระบุว่า ขอให้รัฐบาลหยุดการคุกคามแผ่นดินที่เป็นของคนจะนะด้วยการสร้างนิคมอุตสาหกรรม พร้อมกับมองว่าเป็นการประจบเอาใจนายทุน โดยใช้กำลังอำนาจทั้งหมดที่มีของรัฐเอาแผ่นดินของประชาชนไปประเคนให้นายทุนเพียง 2 บริษัท จำนวนเกือบ 20,000 ไร่
วันนี้สิ่งที่เราไม่เคยเห็นก็ได้เห็นแล้วว่ากลุ่มคนที่อยู่ในอำนาจรัฐขณะนี้เข้ามาเพียงเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเอง และเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญว่า ถ้าแผ่นดินของประเทศนี้จะรอด เป็นหน้าที่ของประชาชนผู้ปกป้อง เพราะรัฐไว้วางใจไม่ได้
คนจะนะจะมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน แต่คนที่ถืออำนาจทำหน้าที่ปกป้องกลุ่มทุน เมื่อคืนนี้ผู้ปกป้องกลุ่มทุนจึงทุบทำลายผู้ปกป้องแผ่นดิน
นี่คือภาวะของประเทศไทยตอนนี้ และหากประชาชนไม่ลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดิน หลายพื้นที่จะถูกอำนาจรัฐทุบทำลาย
ภารกิจนี้จึงได้ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ด้วยการยืนหยัดว่า หากไม่ได้รับคำตอบจากการยุตินิคมอุตสาหกรรมจะนะ เราจะไม่ไปไหน ไม่ว่าจะถูกทุบทำลายจากกลุ่มอำนาจสักกี่ครั้งก็ตาม
ขณะที่มีการอ่านแถลงการณ์ได้มีการหยุดอ่านเป็นระยะ เนื่องจากร้องไห้ออกมา
โดยบรรยากาศบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล มีการปิดประตู 1 บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้า-ออกของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้มีการตรึงรั้วเหล็กแผงกั้นอีก 1 ชั้น และยังมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1 กองร้อย คอยสับเปลี่ยนกำลังบริเวณด้านหน้า ขณะที่ด้านในทำเนียบรัฐบาลมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ประจำจุด