วันนี้ (25 กันยายน) เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย เดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรค เปิดเผยภายหลังตรวจสอบว่าการประชุมใหญ่ของพรรคในวันที่ 18 ตุลาคมที่จะถึงนี้ เรียบร้อยหรือไม่ โดยเบื้องต้นไม่มีอะไรติดขัด เรียบร้อยทุกอย่าง เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหวังให้จบในรอบเดียว
ทั้งนี้ เฉลิมชัยระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคเพราะติดภารกิจอยู่ที่ประเทศจีน รอให้กลับมาก่อน ส่วนจะสนับสนุนอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ เฉลิมชัยระบุว่า ขอคุยก่อน ใครก็ได้ที่มีความตั้งใจจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนตัวไม่มีอคติ พร้อมยืนยันแทนเดชอิศม์ด้วยเช่นกัน ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการเลือกตั้ง
“ไม่ต้องห่วงว่าผมและท่านเดชอิศม์จะรับตำแหน่งใดๆ ไม่แข่งด้วย จะได้ชัดเจน เวลาคนเอาไปคิดเองแล้วไปเขียนแล้วไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้สังคมสับสน ความสัมพันธ์ในพรรคไม่ได้แตกแยกเหมือนในข่าว เพราะผมเป็นคนที่รอมชอมที่สุดแล้ว” เฉลิมชัยกล่าว
ส่วนกระแสข่าวว่า เฉลิมชัยและเดชอิศม์อาจจะมีการย้ายพรรคนั้น เฉลิมชัยยืนยันว่า ข่าวก็คือข่าว อย่างกรณีที่ตนเดินทางไปจังหวัดตรังก็ได้พูดคุยกับ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ซึ่งเป็นคนที่ตนเคารพรัก ได้มีการวิเคราะห์การเมืองในหลายประเด็น โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์กับภาคใต้ ซึ่งตนได้วิเคราะห์ตามสถานการณ์ ในฐานะที่อยู่การเมืองมา 30 ปี
ส่วนการที่สมชายจะเอาคำวิเคราะห์ของตนไปฟันธง ก็เหมือนกับการจัดรายการทั่วไป แต่ส่วนตัวขอยืนยันว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้น ซึ่งการฟันธงทุกอย่าง ยังไม่มีอยู่ในความรู้สึกนึกคิดทั้งหมด จนกว่าตนจะได้คุยกับ สส. ของพรรคให้ครบ รวมถึงพูดคุยกับคนที่จะมาสานงานต่อ คนที่มาเป็นกรรมการบริหารพรรคเรียบร้อยก่อน ซึ่งหลังวันที่ 18 ตุลาคม จึงเริ่มคิดว่า จะเดินหน้าอย่างไร ดังนั้น ช่วงนี้ขอพักก่อน พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ไม่เห็นหรือหน้าผมสดใสขึ้นเยอะ”
ทั้งนี้ หลัง 18 ตุลาคมจะเป็นการไปต่อทางการเมืองหรือวางมือ หรือย้ายพรรคนั้น เฉลิมชัยชี้แจงว่า ขอพักก่อนสักหนึ่งเดือน แต่จะไปต่อหรือพอแค่นี้ หลัง 18 ตุลาคม คงต้องใช้เวลานั่งคิด ซึ่งการตัดสินใจทางการเมืองของตนอยู่บนความรับผิดชอบ ตนเองสนิทกับทุกพรรค มีพรรคพวก พี่น้อง ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีผู้นำก่อน จึงจะกลับมาคิดอย่างรอบคอบ ส่วนแนวทางว่าจะไปต่อกับพรรคประชาธิปัตย์หรือ จะไปกันทั้งหมดรวมทั้ง สส. ด้วย เฉลิมชัยยืนยันว่า ต้องขึ้นอยู่กับ สส.
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ ผมยังห่วงน้องๆ นี่คือตัวผม ใครจะว่าโบราณก็โบราณ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน คือตัวตนผมจริงๆ ยังมีครับ ยังมีคำนี้ยังใช้ได้อยู่ มีอยู่ในประเทศไทยและผมใช้จริงๆ“ และผมไม่เคยทะเลาะกับคุณเดชอิศม์ ผมคบกันทั้งชีวิต เลือกคนที่ผมอยากคบ“ เฉลิมชัยกล่าว
สื่อมวลชนถามอีกว่า หลัง 18 ตุลาคมโอกาสที่จะไปต่อกับพรรคประชาธิปัตย์มากน้อยแค่ไหน เฉลิมชัย ยิ้มรับ แล้วบอกว่า ไม่มีใครรู้อยู่ 2 เรื่อง คือ อนาคตและใจคน
ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีการนัดคุยกับอภิสิทธิ์หรือไม่นั้น เฉลิมชัยระบุว่า ถ้ามีโอกาสก็ต้องได้คุยอยู่แล้ว เพราะตนกับนายอภิสิทธิ์ก็มีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันทั้งหมด เพราะอยากให้พรรคมีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และขับเคลื่อนต่อไป ดังนั้น ดังนั้นนักวิเคราะห์หรือข่าวที่ออกไป ณ วันนี้มันยังไม่ใช่ ความจริงหนีไม่พ้น
โดยในช่วงท้าย สื่อมวลชนได้สอบถามเดชอิศม์ว่ามีการทาบทามไปอยู่พรรคกล้าธรรม เดชอิศม์ยืนยันว่าไม่มี กินข้าวกินธรรมดา ทำให้เฉลิมชัย พูดแทรกขึ้นว่า “มีแต่พรรคเฉลิมชัย“ จึงถามต่อว่า จะไปตั้งพรรคใหม่ใช่หรือไม่ เฉลิมชัยหัวเราะและระบุว่า “คุณก็คิดไปเรื่อย” เพราะยังไม่คิด รอให้ถึงเวลาก่อน ที่ออกมาวันนี้ ไม่อยากให้สังคมสับสน
“ขอยืนยันว่าเดชอิศม์กับผมรักกันทั้งชีวิตคบกันทั้งชีวิต ไม่มีหรอก ที่คนมาบอกว่า ประชาธิปัตย์ภายในแตกแยก อาจจะมีบ้างความเห็นบางเรื่องไม่ตรงกัน แต่ไม่ใช่จุดสำคัญ ที่จะมาบอกว่าไปต่อหรือไม่ไปต่อ คบหรือไม่คบ ทุกสังคมก็มี ขนาดสามีภรรยายังทะเลาะกัน แต่ยิ่งทะเลาะกันลูกยิ่งดก” เฉลิมชัยกล่าว
รอยลโฉมหัวหน้าพรรค-กก.บห. ใหม่ ก่อนตัดสินใจย้ายค่ายหรือไม่
เดชอิศม์ยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ยังยืนยันจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ โดยระบุว่า ขอรอหลังวันที่ 18 ตุลาคมนี้ เพราะต้องดูหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค หากดูแล้วว่าเป็นอุปสรรค ก็ไม่ควรอยู่ แต่ถ้าเห็นแล้วว่า ช่วยพรรคได้ ทำให้พรรคเดินหน้าได้ก็ควรจะอยู่ ส่วนจะสามารถทำงานร่วมกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้หรือไม่นั้น เดชอิศม์ตอบว่า ใช่ แต่ไม่มีตำแหน่ง
ส่วนกระแสข่าวว่าไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคกล้าธรรมนั้น เดชอิศม์ระบุว่า เป็นการไปแวะรับประทานอาหารธรรมดา เขาจะชวนไปทานร้านอาหาร ตนบอกให้มาทานที่บ้านดีกว่า กลัวจะเป็นข่าว เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการชวนไปร่วมพรรค ส่วนจะตอบรับหรือไม่ เดชอิศม์ ตอบว่า ตนเองมากับเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 2 คน ภาพที่ว่าเราขัดแย้งกัน จะเห็นว่าไม่จริง ตนเองกับเฉลิมชัยคุยกันทุกเรื่อง เราคุยกันทุกวัน ต้องบอกว่า ท่านอย่ามากังวลผม สบายใจได้ เพราะผมไม่เอาตนเองเป็นตัวตั้ง
เมื่อถามย้ำว่า จะมีการตัดสินใจหลังวันที่ 18 ตุลาคมนี้ใช่หรือไม่ เดชอิศม์ระบุว่า “ครับ เพราะผมต้องแบกเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นคนใต้ ความเป็นคนสงขลา ต้องมองทุกด้าน”
ส่วนหากมีการย้ายไปพรรคอื่น จะนำ สส. ในมือไปด้วยหรือไม่ เดชอิศม์ตอบว่า อย่าว่าแต่ สส. เลย ครอบครัวตนเองก็ไม่บังคับ ทั้งภรรยาและลูกชายก็ไม่บังคับ อยู่ในโลกของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะว่าหลักคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกันในเรื่องของประชาธิปไตย