วันนี้ (10 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงต่อสื่อมวลชนถึงการเตรียมรับมือการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน โดยใช้ชื่อว่า ‘19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร’ ว่าเบื้องต้นได้ฟังจากข่าว ทราบว่าจะมีการชุมนุมในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น ส่วนที่แกนนำระบุว่าหากมีคนมาร่วมจำนวนมากจะใช้พื้นที่สนามหลวง จะอนุญาตหรือไม่นั้นก็ต้องดูสถานการณ์ก่อน แต่เบื้องต้นแจ้งเพียงว่าจะชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนั้นหากมีการเคลื่อนย้ายก็ต้องคุยกันหน้างานอีกครั้ง ไม่สามารถบอกอะไรได้ตอนนี้ ซึ่งต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ต้องดูว่ามาแล้วปลอดภัยหรือไม่ และปัจจัยอีกหลายอย่าง
ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่ ซึ่งต้องยื่นภายใน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่อดทนและอย่าใช้ความรุนแรง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องการปะทะและยื้อยุดฉุดกระชาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สร้างเงื่อนไขและระวังตัวอยู่แล้ว ซึ่งทุกม็อบก็มีแกนนำประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้นต้องดูว่าอะไรได้หรือไม่ได้ แต่ก็จะอะลุ่มอล่วย
ขณะเดียวกันตนยอมรับว่ามีความกังวลในเรื่องมือที่สาม เพราะหากไม่มีจะดีกว่า จึงต้องป้องกันอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าม็อบอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น แต่ต้องดูแล และจากข่าวทราบว่าเบื้องต้นจะชุมนุมไม่เกิน 2 วัน
เมื่อถามว่าข่าวระบุหรือไม่ว่าเป็นการชุมนุมธรรมดาหรือมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่าเรื่องนี้ขอไม่เปิดเผย แต่เรารู้ตัวละครอยู่แล้วว่าใครทำอะไร อย่างไร และแบ่งกันอย่างไร อย่างไรก็ตามขอฝากทุกม็อบให้อยู่ในกรอบของกฎหมายจะดีที่สุด
ส่วนที่แกนนำยืนยันว่าหากผู้ชุมนุมเกิน 5 หมื่นคนจะขยับเข้าพื้นที่สนามหลวงให้ได้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่าจะกี่คนก็ตาม ถ้าตั้งใจขยับก็ขยับ แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ตนบอกทุกครั้งว่าหากนับหนึ่งก็ต้องไปสอง สาม สี่ ดังนั้นไม่อยากเห็นน้องๆ อยู่ในสถานการณ์แบบแกนนำในอดีตที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล จึงฝากเป็นข้อคิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย
“ส่วนที่ขณะนี้ยังมีการบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะใช้กำลังทหารมาร่วมหรือไม่นั้น ยืนยันว่าทหารไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของตำรวจอย่างเดียว แต่เชื่อว่าถ้าพูดคุยกันเข้าใจก็ไม่ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ซึ่งจริงๆ แล้วตนก็ไม่อยากใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยซ้ำ แต่จำเป็นต้องดูแลความปลอดภัยของคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย” พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าว
ส่วนที่จะมีบางกลุ่มเคลื่อนไหวก่อนวันที่ 19 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับดำเนินคดีแกนนำก่อนชุมนุมใหญ่หรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่าเราพยายามดูบริบทส่วนนี้ด้วย ถ้าจับกุมแล้วจะนำไปสู่ความต่อเนื่องก็หลีกเลี่ยงอยู่แล้ว ส่วนจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่หลายกองร้อยหรือไม่นั้นยังไม่ได้เตรียมการ แต่เบื้องต้นได้สำรวจหมดแล้วว่าพื้นที่มีคนจำนวนเท่าไร ซึ่งย้ำว่าต้องดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด ส่วนจะถือว่าเป็นงานยากหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาตนเองก็ผ่านม็อบมาเยอะ แต่ครั้งนี้แปลกจากที่ผ่านมาตรงที่เป็นน้องๆ นักศึกษาและมัธยม ดังนั้นความยากง่ายของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน
ส่วนที่แกนนำได้ประเมินไว้ว่าจะมีแกนนำจากทั่วประเทศมาร่วม พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่าเป็นแนวคิดที่จะสามารถรวบรวมชักจูงใครมาก็ได้ และเจ้าหน้าที่ก็มีฐานข้อมูลของต่างจังหวัดอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้แผนกรกฎ 52 เพราะไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว ย้ำว่านายกรัฐมนตรีกำชับให้เจ้าหน้าที่อดทน จึงไม่มีการใช้ชื่อแผนอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นการดูแลความปลอดภัยตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าเป็นการวัดกำลังก่อนเกษียณอายุราชการเพื่อไปสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือไม่ พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวปฏิเสธว่า “ไม่เกี่ยวเลย เป็นงานปกติของผมอยู่แล้ว และวันชุมนุมผมก็จะอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่เคยไปไหน”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์