วันนี้ (8 ธันวาคม) สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิช่วยเหลือทางสังคมเพื่อเด็กและสตรี เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี เพื่อให้เด็กนักเรียนทุกคนมีอาหารกลางวันรับประทาน เป็นการแก้ปัญหาเชิงระบบ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีอย่างครูชัยยศอีก
จากกรณี ครูชัยยศ สุขต้อ ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนบ้านยางเปา อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และถูกต้นสังกัดให้ออกจากราชการ สืบเนื่องจากครูชัยยศบริหารจัดการอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งจัดให้แก่เด็กอนุบาลและประถมศึกษา เป็นให้เด็กระดับมัธยมได้รับประทานด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นนักเรียนกินนอน ครอบครัวยากจน
ครูชัยยศได้ทุ่มเทชีวิตสอนหนังสือเด็กนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ด้อยโอกาสในพื้นที่สูงถิ่นทุรกันดารเขตอำเภออมก๋อยมานาน 26 ปี เคยได้รับรางวัลครูดีเด่นมา 10 รางวัล รางวัลที่ครูชัยยศภาคภูมิใจที่สุดคือ รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เมื่อปี 2553 ได้เงินรางวัล 20,000 บาท ได้นำมาซื้ออุปกรณ์เรียนรู้ศิลปะให้นักเรียน นอกจากนี้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ยังเคยสัมภาษณ์ครูชัยยศในคอลัมน์ ‘ครูฮีโร่’ ด้วย
สุรพงษ์กล่าวว่า ปัจจุบันนโยบายและกฎหมายในเรื่องการศึกษาเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 28/2559 เรื่อง ให้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปีโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งประกาศมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2559 เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสทางการศึกษาและความเป็นธรรมในสังคม แก้ปัญหาความยากจน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
การศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี หมายความถึงการศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล) ระดับประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะมีอายุประมาณ 18 ปี อันเป็นการให้เด็กซึ่งหมายถึงผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมาทุกคนต้องได้รับการศึกษาโดยการสนับสนุนของรัฐจนกว่าจะจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำให้เด็กทุกคนได้รับการเรียนรู้และพัฒนาอย่างเต็มที่ ไม่ไปเป็นแรงงานเด็กและไม่เข้าสู่ขบวนการที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้ามนุษย์
สุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า คำสั่ง คสช. ฉบับดังกล่าวได้ระบุให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี เพื่อเสนอในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ประกอบด้วย
- ค่าจัดการเรียนการสอน
- ค่าหนังสือเรียน
- ค่าอุปกรณ์การเรียน
- ค่าเครื่องแบบนักเรียน
- ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
- ค่าใช้จ่ายอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ
สุรพงษ์เรียกร้องว่า เพื่อไม่ให้เกิดกรณีดังเช่นครูชัยยศอีก จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการปฏิบัติตามนโยบายและคำสั่ง คสช. ฉบับดังกล่าว ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปีโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพื่อสนับสนุนให้เด็กทุกคนเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างเสมอภาค ด้วยการเสนอเพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่จะจัดสรรให้นักเรียนทุกคน เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบที่จะส่งผลให้สามารถเสนอเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีสนับสนุนอาหารกลางวันรายหัวให้เด็กนักเรียนต่อไป