วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล เขตจอมทอง ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. พรรคก้าวไกล ผู้ถูกกล่าวหาในกรณีคุกคามทางเพศ ซึ่งมีมติจากพรรคก้าวไกลให้คาดโทษไว้ พร้อมเงื่อนไขให้มีการยอมรับผิด ขอโทษสังคม และเยียวยาผู้เสียหาย ได้แถลงข่าวภายหลังได้รับหนังสือจากพรรคก้าวไกลว่า ตนตั้งใจจะชี้แจงและนำเสนอหลักฐานต่อสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนในข้อกล่าวหาตามคำร้องของผู้ร้อง ซึ่งตนได้ส่งหลักฐานให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณานานแล้ว
จากนั้นไชยามพวานได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน จากกรณีที่มีผู้ร้องทั้งหมด 3 คน เป็นรายกรณี โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีที่ 1 ตามเอกสารที่ระบุว่า มีการใช้อำนาจคุกคามทางเพศไปที่ผู้ร้องคนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ร่วมกันทำพื้นที่ในเขตจอมทองมาโดยตลอด ตนขอแสดงหลักฐานข้อความส่วนตัวระหว่างตนและคู่กรณี จากนั้นไชยามพวานได้อ่านบันทึกการสนทนาให้สื่อมวลชนฟัง พร้อมกล่าวว่า
“หากเป็นการคุกคามทางเพศโดยใช้อำนาจบีบบังคับตามที่คณะกรรมการพรรควินิจฉัย ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ” ไชยามพวานกล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับครั้งที่ 1
ส่วนกรณีที่ 2 มีการกล่าวอ้างว่ามีรูปถ่ายขณะที่ผู้ร้องคนที่สองผูกเนกไทให้กับตน และอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องพัก เป็นการคุกคามทางเพศนั้น ตนขอชี้แจงว่า รูปดังกล่าวจัดทำขึ้นเป็นคอนเทนต์ เพื่อเตรียมไว้สำหรับลงโซเชียลมีเดีย โดยมีแนวคิดว่าตนเองเป็น สส. หน้าใหม่ที่ผูกไทไม่เป็น ซึ่งผู้ร้องคนที่สองก็เป็นคนคิดคอนเทนต์นี้เอง และเป็นเพียงการส่งรูปให้เลือกเพื่อลงโซเชียลมีเดีย แต่ยังไม่ได้เผยแพร่ เป็นข้อบ่งชี้ที่ว่าผู้ร้องรู้ตัวว่าถูกถ่ายแน่นอน และในวิดีโอผู้ร้องก็มีการสนทนากับตนตลอด และจะเห็นได้จากเงาสะท้อนว่ามีผู้ช่วยคนอื่นอยู่ในห้องด้วย ไม่ได้อยู่กันสองต่อสองตามที่ได้กล่าวอ้าง
ส่วนสลิปการโอนเงินที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการโอนเพื่อปิดปากนั้น ไชยามพวานชี้แจงว่า เป็นการโอนเงินเดือนตามบันทึกข้อตกลงร่วมงาน และให้เงินช่วยเหลือค่าครองชีพระหว่างการว่างงาน
“หากรูปดังกล่าวที่แจ้งไปข้างต้นถือว่าเป็นการคุกคามทางเพศตามที่คณะกรรมการของพรรควินิจฉัย รวมถึงถือว่าสลิปโอนเงินนั้นเป็นการปิดปาก ตนก็ขอโทษ และพร้อมยอมรับในมติพรรค” ไชยามพวานกล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับครั้งที่ 2
ส่วนกรณีที่ 3 ที่กล่าวอ้างว่ามีการแตะเนื้อต้องตัว ซึ่งถูกมองว่าเป็นการคุกคามนั้น ไชยามพวานชี้แจงว่า ตนทราบดีว่าเวลาลงพื้นที่อาจมีการแตะตัวกับผู้อื่นค่อนข้างมาก แต่ตนไม่มีเจตนาที่จะแตะตัวใครเพื่อเป้าประสงค์ทางเพศ และการสัมผัสตามคำร้องของผู้ร้องคนที่สามนั้น เป็นการแตะเนื้อต้องตัวธรรมดาของผู้ร่วมงาน ไม่ได้มีเป้าประสงค์ทางเพศ
“หากผมผิดพลาดที่อาจไม่ได้คิดให้รอบคอบถึงขอบเขตเหล่านี้ให้ดีพอว่าแต่ละคนอาจมีขอบเขตในการยอมรับที่แตกต่างกัน และผมต้องขออภัยหากการกระทำของตนทำให้ผู้ร้องรู้สึกไม่สบายใจ และตนอาจจะไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร้องสะท้อนความรู้สึกถึงความไม่สบายใจออกมาได้มากพอ ผมก็ต้องขออภัย และจะระมัดระวังตัวมากขึ้น” ไชยามพวานกล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับครั้งที่ 3
ไชยามพวานกล่าวแถลงตอนท้ายว่า ตนเคารพในการตัดสินใจของมติพรรค ขอฝากพี่น้องสื่อมวลชนและประชาชน ช่วยพิจารณาตามเอกสารหลักฐานตรงนี้ด้วยว่าเป็นพฤติกรรมคุกคามทางเพศและเข้าข่ายหรือไม่
“เมื่อ กกต. ตรวจสอบ หากบริสุทธิ์ก็ต้องว่าไปตามบริสุทธิ์ แต่หากพบว่ามีความผิดก็พร้อมลาออกจากพรรคก้าวไกล
“ขอโทษเพื่อนๆ ที่ทำให้พรรควันนี้มีรอยร้าวขึ้นมา ขอโทษประชาชนในพื้นที่ที่วันนี้เพิ่งจะเอาหลักฐานออกมาให้ทุกคนได้ทราบ และหลังจากเสร็จการแถลงข่าวจะไปลงพื้นที่ต่อ” ไชยามพวานกล่าว
จากนั้นสื่อมวลชนได้พยายามซักถามว่า ไชยามพวานมีพฤติกรรมตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ไชยามพวานได้ปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมกล่าวว่า ซ้ายก็ทีมงาน ขวาก็พรรค จึงไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ โดยขอให้พิจารณาจากหลักฐานที่ตนเองได้นำมาเปิดเผย ส่วนเรื่องอื่นขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ตรวจสอบ
ส่วนกระบวนการขอโทษและเยียวยาผู้ร้องทั้ง 3 กรณีนั้น ไชยามพวานขอให้พรรคก้าวไกลเป็นกลางในการพิจารณา พร้อมยืนยันว่ายังไม่ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และจะเดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อไป โดยให้ระยะเวลาพิสูจน์ตัวเอง
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีมุ้ง สส. ฝั่งธนบุรีคอยอุ้มอยู่นั้น ไชยามพวานกล่าวยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่มีมุ้ง มีเพียงมุ้งกินข้าว ในพรรคไม่มีก๊กโน้นก๊กนี้เพื่อต่อรองตำแหน่ง ยืนยันว่าในพรรคก้าวไกลยังคงเป็นมุ้งใหญ่ที่พยายามหล่อหลอมความหลากหลาย และทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด ไม่มีมุ้งในพรรค แล้ววันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าใครโหวตอะไรบ้าง
ไชยามพวานยังกล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้าตนจะเข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย
ทั้งนี้ตลอดการแถลงข่าวเกือบ 1 ชั่วโมง ไชยามพวานไม่ได้มีการเอ่ยขอโทษผู้เสียหาย และปฏิเสธตอบคำถามในหลายๆ เรื่อง
ทั้งนี้ ทั้งก่อนและหลังการแถลงข่าว ไชยามพวานได้ลงพื้นที่ไปพบประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล พร้อมกล่าวขอโทษและโค้งคำนับประชาชนทั้งสิ้น 8 ครั้ง ดังนี้
- โค้งครั้งที่ 1: ขณะเดินไปพบประชาชนก่อนการแถลงข่าว
- โค้งครั้งที่ 2: ก่อนเดินเข้าศูนย์ประสานงานเพื่อแถลงข่าว
- โค้งครั้งที่ 3: ขอโทษผู้ร้องที่ 1 ในไลฟ์นาทีที่ 24.46 เป็นเวลา 9 วินาที
- โค้งครั้งที่ 4: ขอโทษผู้ร้องที่ 2 ในไลฟ์นาทีที่ 26.53 เป็นเวลา 7 วินาที
- โค้งครั้งที่ 5: ขอโทษผู้ร้องที่ 3 ในไลฟ์นาทีที่ 28.15 เป็นเวลา 3 วินาที
- โค้งครั้งที่ 6: กล่าวปิดจบการแถลงข่าว ในไลฟ์นาทีที่ 30.14 เป็นเวลา 3 วินาที
- โค้งครั้งที่ 7: ก่อนเดินจากบริเวณที่แถลงข่าว ในไลฟ์นาทีที่ 44.24 เป็นเวลา 2 วินาที
- โค้งครั้งที่ 8: ภายหลังการแถลงข่าว ด้านหน้าศูนย์ประสานงาน ในไลฟ์นาทีที่ 46.02 เป็นเวลา 15 วินาที
ดูคลิป :
