วันนี้ (4 มกราคม) ภายหลังที่ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในฐานะผู้ยื่นข้อมูลหลักฐานให้ตรวจสอบ รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
ชัยวัฒน์กล่าวว่า วันนี้ที่มาพบพนักงานสอบสวนได้ให้การเพิ่มเติมไว้ทั้งหมด และได้ยื่นเอกสาร 53 แผ่นที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับซองเงิน และจะยื่นพยานอีก 17 ปากที่จะมาให้ข้อมูลวันศุกร์ที่ 6 มกราคมนี้
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าที่ผ่านมามีการเรียกรับมาแล้วกี่เดือน เพราะตนมารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนตุลาคม หลังจากนั้นก็มารับทราบปัญหา มีการเรียกเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม รวมเป็นเงิน 98,000 บาท ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการนำเงินส่วนตัวที่หาได้ในครอบครัว หรืออาจเป็นเงินกู้สหกรณ์ เงินที่หาได้ นำไปจ่ายก่อน เพราะงบประมาณส่วนราชการเงินเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนเงินยังไม่ออก
ชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน่าสงสาร แต่ก็ต้องยอมจ่ายกันหน่วยละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 12,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของเดือนตุลาคม มีหัวหน้าหน่วยงานหลายคนที่ถูกรังแก ต้องหาเงินมาจ่ายแบบนี้
ด้าน พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวว่า ชัยวัฒน์ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พนักงานสอบสวนได้เอาคำให้การที่มีชื่อเจ้าหน้าที่ต่างๆ เตรียมส่งหมายเรียกไปทุกหน่วยงานโดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนเจ้าของซองที่รู้ตัวสามารถมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การได้ก่อนจะไม่ถือว่ามีความผิด
ส่วนเรื่องการขยายผลตรวจสอบบ้านพัก ทาง บก.ปปป. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะต้องมีหลักฐานรัดกุมให้มาก เพราะเล่นกับพายุใหญ่ก็ต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ไม่ขยายผล แต่ทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
พล.ต.ต. จรูญเกียรติกล่าวด้วยว่า จากนี้จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำเพิ่ม ส่วนเงินจะส่งต่อให้ใครอีกบ้าง ชุดสืบสวนได้ทำงานอยู่ ขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับซองให้มาให้ปากคำ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมให้ความเป็นธรรม