วันนี้ (7 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ขนส่งทางบกฉบับที่.. พ.ศ. …. ที่มี ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ก้าวไกล รวมถึงตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 ปี
ชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นกล่าวกับประธานในที่ประชุมว่า เมื่อสักครู่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล
ดังนั้นตนอยากจะขอแจ้งกับประธานในที่ประชุมว่า ตนเอง ชัยธวัช ตุลาธน และกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร, เบญจา แสงจันทร์ และ สุเทพ อู่อ้น รวมถึงอดีตหัวหน้าพรรคคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรได้อีกต่อไป
ชัยธวัชกล่าวว่า ขอขอบคุณประธานสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมา และถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พวกตนได้ใช้ช่วงเวลาในฐานะผู้แทนราษฎรทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันสิ่งที่เราคิดว่าเป็นอนาคตของประเทศ
สุดท้ายพวกตนคงไม่มีโอกาสที่จะได้ร่วมทำงานกับทุกคนอีกต่อไปอย่างน้อยก็ 5 ปี 10 ปี แต่ก็หวังว่าหลังจากนี้เพื่อนผู้แทนราษฎรจะสามารถที่จะใช้อำนาจหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะที่พี่น้องประชาชนเลือกเข้ามาเป็นสถาบันทางการเมืองเดียวในประเทศที่ถูกแต่งตั้งโดยประชาชนอย่างคุ้มค่า และทำให้ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
จากนั้น ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมได้กล่าวในที่ประชุมว่า ตนเองเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลในปี 2562 สมาชิกภาพความเป็น สส. ก็จะสิ้นสุดเช่นเดียวกัน โดยขอขอบคุณทุกคน และเป็นเกียรติมากที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคน
ปดิพัทธ์กล่าวอีกว่า อยากจะบอกข้าราชการสภาผู้แทนราษฎรทุกคนว่า เคารพและขอบคุณทุกคน สุดท้ายอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ขอบคุณประชาชน ขอบคุณครับ จากนั้นได้กล่าวปิดประชุมในเวลา 15.52 น.
จากนั้น สส. พรรคก้าวไกล กอดคอกันกลางสภา หลายคนถึงขั้นร้องไห้ พร้อมชูกำปั้น โดยบรรดา สส. ยืนระหว่างสองทางเดินเพื่อกอดคอกับชัยธวัช หัวหน้าพรรค ขณะที่ปดิพัทธ์ลงจากบัลลังก์ และเข้าไปทักทายกับบรรดา สส. และร่วมถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน พร้อมชูกำปั้น
ก่อนที่ชัยธวัชจะออกจากอาคารรัฐสภา ทำท่าชูกำปั้นอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า “แล้วพวกผมจะกลับมาใหม่”
