วานนี้ (14 สิงหาคม) ที่ตลาดคลองถม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยว่า ขอบคุณกำลังใจจากประชาชนที่มีให้พวกเรามาตลอดจนถึงทุกวันนี้ และต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่พรรคก้าวไกลได้รับกำลังใจและเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลาม เลือกก้าวไกลเป็น สส. ยกจังหวัด ส้มทั้งจังหวัด เป็นประวัติศาสตร์ แล้วผมก็เชื่อว่าเปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนเลยใช่หรือไม่ เปลี่ยนแล้วไม่หันหลังกลับใช่หรือไม่ ระยองส้มทั้งแผ่นดิน
แต่หลังวันที่ 14 พฤษภาคม ประชาชนทั่วประเทศได้เลือกพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งเป็นพรรคการเมืองอันดับที่ 1 และวันที่ 15 พฤษภาคมทุกคนต่างตื่นเต้นรอจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งก็ต้องชื่อพิธาเพราะประชาชนเลือกมาแล้ว ประชาชนทั้งประเทศคาดหวังจะเห็นรัฐบาลพรรคก้าวไกลมาสร้างความเปลี่ยนแปลง
“ตอนแรกบอกให้เราไปเลือกตั้ง เราก็เลือกพิธามาเป็นนายกฯ ปรากฏว่าวันนี้ชักไม่แน่ใจว่าให้เราเลือกพิธาหรือหลอกให้เราเลือกตั้งพอเป็นพิธี เราต้องการระบบการเมืองแบบไหน เลือกตามที่ประชาชนเลือก หรืออนุญาตให้เลือกตั้งทุก 4 ปีพอเป็นพิธี เลือกเสร็จก็ให้ผู้มีอำนาจไม่กี่คนมาตัดสินกำกับว่าใครจะเป็นนายกฯ คนนี้อนุญาต คนนี้ไม่อนุญาต พรรคนี้อนุญาตให้เป็นรัฐบาล พรรคนี้ไม่อนุญาตให้เป็นรัฐบาล เราจะอยู่กันแบบนี้จริงหรือครับ”
ชัยธวัชระบุว่า สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่มันได้เปิดเผยให้เห็นว่าการเมืองตอนนี้เป็นการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน พวกเขาเกรงใจนายทุนใหญ่ เกรงใจผู้มีอำนาจนอกระบบ เกรงใจ สว. ผู้ทรงเกียรติ ยกเว้นไม่เกรงใจอำนาจประชาชน เป็นการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน หรือต้องการการเมืองที่เห็นประชาชนเป็นเจ้านายแบบพรรคก้าวไกล
“ตอนนี้เขาอ้างว่าเราต้องมีรัฐบาลแบบพิเศษเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ก็ไม่รู้ว่าพิเศษแบบไหน แต่เราลองจินตนาการสิครับว่าการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน จะนำพาประเทศไปสู่รูปร่างหน้าตาแบบไหน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่บอกว่าจะรีบทำกัน จะเป็นแบบไหน การเมืองแบบนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปกองทัพ ให้ประชาชนและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนือกองทัพ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรัฐประหารขึ้นอีก มันจะทำได้ไหม” ชัยธวัชกล่าว
ชัยธวัชระบุว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันจินตนาการดู เราต้องการการเมืองแบบไหน ต้องการการเมืองแบบก้าวไกล ที่ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการโฆษณาเพื่อหาเสียง คิดยังไงก็คิดอย่างนั้น เอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วมาคิดนโยบายผลักดันเพื่อเปลี่ยนแปลง กับการเมืองที่กลับกลอก วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง เวลาตัดสินใจจะทำอะไรคุยกันเกรงใจในหมู่ผู้มีอำนาจไม่กี่คน เราต้องการการเมืองแบบไหน
ตนเชื่อว่าพี่น้องชาวระยองและคนส่วนใหญ่ของประเทศเราไม่อยากเห็นการเมือง แบบนั้นอีกแล้ว เพราะปัญหาที่สำคัญที่เรื้อรังมาเป็น 10 ปี มันถูกพิสูจน์แล้วว่าแก้ด้วยการเมืองแบบนั้นไม่ได้ แต่ต้องการการเมืองแบบก้าวไกลที่ย้ำนักย้ำหนาว่าประชาชนคือเจ้านาย และเจ้านายคือประชาชน เพราะประชาชนเท่านั้นคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ดังนั้น 10 กันยายน ให้ช่วยกันบอกต่อ เข้าคูหากา ‘โย พรรคก้าวไกล’ ให้ถล่มทลาย คราวที่แล้วใครที่ไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลและตาสว่างแล้วว่าพรรคการเมืองไหนไว้ใจได้ ซื่อสัตย์ ซื่อตรงกับประชาชน 10 กันยายน กาก้าวไกลทุกคน
ชัยธวัชยังฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เขาชะเมา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ให้ออกมากาพรรคก้าวไกล บอกความรู้สึกผ่านคูหาเลือกตั้งว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนรู้สึกอย่างไรกับการเมืองตอนนี้ ดังนั้นการเลือกตั้งระยอง เขต 3 จะเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนทั้งประเทศ การแสดงออกว่าเราต้องการการเมือง ‘ที่เห็นหัวกู’ และพวกคุณไม่สามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงได้ถ้ายังไม่มากพอ วันหน้าจะเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้ วันนี้เรามี 150 เสียง วันหน้าจะมี 200 เสียง 250 เสียง ให้มันรู้ไปว่าจะหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงได้
