วันนี้ (24 กันยายน) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดงาน ‘ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน’ โดย ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวตอนหนึ่งระบุว่า นี่คือการประชุมสมาชิกพรรคของพรรคก้าวไกลครั้งใหญ่ที่สุดที่เราเคยทำมา นี่คือทิศทางที่สำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ตนมายืนตรงนี้แทนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่สิ่งที่อยากประกาศกับทุกคนในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ เรื่องแรกจะประกาศว่า แม้ว่าหัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนไป แต่ว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นพิธาคนเดิม
ชัยธวัชกล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของพรรคก้าวไกล เราต้องผลักดันเปลี่ยนแปลงสิ่งที่การเมืองชนชั้นนำบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นสิ่งที่สังคมไทยปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งพรรคก้าวไกลมียุทธศาสตร์สำคัญ 4 ด้าน และ 1 ภารกิจพิเศษ ได้แก่ ยุทธศาสตร์แรก สร้างพรรคก้าวไกลให้เข้มแข็ง เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนจริงๆ ให้ได้
นับจากนี้ขอเชิญชวนให้สมาชิกพรรคขยายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างพรรคก้าวไกลให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ช่วยกันเปลี่ยนแปลงวันละเล็กวันละน้อย ช่วยกันปรับปรุงทางความคิด เพื่อให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึง
ชัยธวัชกล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ที่สอง ยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นภารกิจความรับผิดชอบของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โดยมีพรรคฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ ขอให้คำมั่นสัญญากับทุกคนว่า เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร ดุดันด้วยเนื้อหา ท่วงทำนองสุขุมและสุภาพ
ยุทธศาสตร์ที่สามคือ ฝ่ายค้านเชิงรุก เรื่องนี้ให้พิธาเป็นผู้อธิบายในภายหลัง และยุทธศาสตร์ที่สี่ ตรึงพื้นที่เก่า รุกพื้นที่ใหม่ ซึ่งในพื้นที่เก่านั้นเราทำงานไม่เหมือนใคร และอธิบายให้ทุกคนทราบว่าเราได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ส่วนพื้นที่ที่ไม่ชนะการเลือกตั้ง ก็ขอเชิญชวนทุกคนทำพรรคให้เข้มแข็งและเฟ้นหาคนที่จะมาเป็น สส. ของเราด้วย
ชัยธวัชกล่าวว่า ภารกิจสุดท้าย เรามาร่วมผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน ขอให้ทุกคนร่วมรณรงค์เรียกร้องให้มีประชามติเพื่อถามว่าจะต้องการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับหรือไม่ แล้วต้องทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องมีข้อยกเว้น เพราะประชาชนมีอำนาจสูงสุด
“ที่ผมพูดมาทั้งหมด ผมทราบดีว่าพวกเราเสียใจ หลายคนสิ้นหวัง หลายคนเสียน้ำตา เราชนะเลือกตั้งแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ นับจากนี้ต่อไป ขอให้เราเอาน้ำตาไว้ข้างหลัง เอาความเสียใจไว้ข้างหลัง ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจอีกต่อไป เราลองนึกถึงสังคมการเมืองไทยก่อนที่จะมีอนาคตใหม่ มีก้าวไกล วันนี้พวกเราช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดไหน ไม่มีอะไรต้องเสียใจ มีเพียงอย่างเดียว เราต้องเดินหน้าจับมือร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มากกว่านี้ เรามาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน เดินหน้าร่วมกัน ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ชัยธวัชกล่าว