×

ชัยธวัชเชื่อเพื่อไทยจริงใจตั้งรัฐบาลร่วมกับก้าวไกล พร้อมเคาะจบตำแหน่งประธานสภา 28 มิ.ย. นี้ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมพรรคร่วมฯ 29 มิ.ย.

โดย THE STANDARD TEAM
26.06.2023
  • LOADING...
ชัยธวัช ตุลาธน

วันนี้ (26 มิถุนายน) ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาตำแหน่งประธานสภาระหว่างพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยประชุม ส.ส. ในวันที่ 27 มิถุนายน พรรคก้าวไกลจะมีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ก่อนจะนำมาเสนอในที่ประชุมหัวหน้า 8 พรรคร่วม ในวันที่ 29 มิถุนายนนี้

 

ซึ่งชัยธวัชยังย้ำตามหลักการที่พรรคอันดับ 1 จะได้ตำแหน่งประธานสภา ซึ่งก็จะต้องช่วยฟื้นฟูตามหลักการของรัฐสภา

 

ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วนระบุว่า ตำแหน่งประธานสภาควรเป็นของพรรคเพื่อไทยจะส่งผลต่อการเจรจาหรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า คงต้องรอให้ผ่านกระบวนการที่พรรคเพื่อไทยจะประชุม ส.ส. ในวันที่ 27 มิถุนายนก่อน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ดีในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันจนประสบความสำเร็จ และเชื่ออีกว่าทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง ที่อยากจะเห็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมได้บริหารประเทศผ่านการเป็นรัฐบาลชุดใหม่ 

 

และกรณีที่ ส.ว. บางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นว่าจะไม่โหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ชัยธวัชกล่าวว่า ตัวเองเชื่อว่า ส.ว. ส่วนใหญ่จะรอดูขั้นตอนแรกคือ การโหวตเลือกประธานสภา ซึ่งเชื่อว่า ส.ว. จะยังมีมาตรฐานเหมือนเช่นปี 2562 ที่พรรคการเมืองใดสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ในรัฐสภา ก็สมควรได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการโหวตเลือกประธานสภาจะสะท้อนการจับมือร่วมกันระหว่าง 8 พรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกลว่าจะมีความหนักแน่น ซึ่งถ้าผ่านจุดนี้ไปแล้วจะทำให้ ส.ว. จำนวนมากมีความเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎรได้ 

 

ส่วนกรณี ส.ว. บางส่วนขอให้พรรคก้าวไกลลดเพดานที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ชัยธวัชระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ความเหมาะสมของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ทุกคนที่เป็นคนไทยได้แสดงออก ได้ตัดสินใจ และเลือก ได้ใช้วิจารณญาณของตัวเองไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง ดังนั้นในขั้นการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา ตัวเองก็หวังว่าทุกฝ่ายที่ปรารถนาดีกับบ้านเมืองจะยึดมั่นว่า พรรคอันดับ 1 สามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งชนะการเลือกตั้งมาแล้ว ก็สมควรได้เป็นนายกรัฐมนตรี และนี่ถือเป็นกระบวนการที่ควรจะเป็นของสภา

 

ชัยธวัชยังกล่าวต่อว่า ตนหวังว่า ส.ว. จะยึดมั่นในหลักการเหมือนปี 3562 ที่พรรคซึ่งชนะอันดับ 1 ไม่สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะเกิดกระบวนการแทรกซ้อน ทำให้พรรคอันดับ 2 รวบรวมเสียงส่วนใหญ่ ซึ่ง ส.ว. ทั้ง 250 เสียงได้ให้เหตุผลในปี 2562 ว่า เมื่อพรรคที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ ทุกคนก็ต้องยอมรับ และยังอยากเห็นมาตรฐานนี้ในปี 2566 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี มีการเตรียมฉากทัศน์ไว้กี่แบบ ชัยธวัชกล่าวว่า หวังจะให้มีฉากทัศน์เดียว เพราะหากมีฉากทัศน์อื่นจะทำให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองได้ เพราะกระบวนการเลือกตั้งถือเป็นการยุติความเห็นต่างตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว 

 

เมื่อถามย้ำว่าฉากทัศน์ที่หวังไว้จะเป็นการโหวตนายกรัฐมนตรีจบในครั้งเดียวหรือไม่ ชัยธวัชบอกว่า ในความเป็นจริงควรเป็นแบบนั้น ไม่เช่นนั้นหลายฝ่ายคงกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง และกระทบกับหลายส่วนทั้งประชาชนที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ปัญหาเร่งด่วนในหลายเรื่อง รวมทั้งภาคธุรกิจที่วันนี้เป็นเรื่องแปลก แม้เลือกตั้งชัดเจนแล้วว่า ขั้วใดได้รับเสียงข้างมากจากประชาชน แต่ภาคธุรกิจกลับตอบรับในทางลบ เพราะกังวลใจเรื่องความชัดเจนเรื่องผลในการจัดตั้งรัฐบาล จะสอดคล้องกับผลการเลือกตั้งหรือไม่ ดีที่สุดให้ทุกอย่างดำเนินไปตามผลการเลือกตั้ง 

 

เมื่อถามต่อว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะโหวตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลจะอยู่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ชัยธวัชระบุว่า ยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีความมุ่งมั่น มีความจริงใจที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลและอีกหลายพรรคได้ผ่านการต่อสู้ผลักดันเพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยมาแล้ว และเคยต่อต้านการทำรัฐประหารร่วมกัน เคยไม่เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และไม่เห็นด้วยกับกระบวนการปี 2562 ที่พรรคที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้งไปใช้เงื่อนไขพิเศษ และอำนาจพิเศษไปรวบรวมเสียงข้างมาก และขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทนได้ จึงเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยยังมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยพร้อมพรรคก้าวไกล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising